อดีตไอดอล แต่งงานกับแฟนคลับ ไม่แคร์แก่กว่า 17 ปี ใช้ชีวิตแฮปปี้ แต่สุดท้ายทำผู้ชมมีน้ำตา ชีวิตที่พลิกผันหลายตลบ สะท้อนความจริงของชีวิต

วันที่ 2 ธันวาคม 2568 เว็บไซต์ Hk01 รายงานเรื่องราวสะเทือนใจ จากรายการโทรทัศน์ "ตามคุณกลับไปที่บ้าน" ของญี่ปุ่น ซึ่งรายการนี้มักบันทึกภาพชีวิตของเหล่าคนธรรมดาในแต่ละวัน ผ่านมุมมองที่น่าสนใจ ซึ่งบางครั้งก็เป็นเรื่องราวอบอุ่นใจ และบางครั้งก็ทำให้ผู้ชมมีน้ำตา ดังเช่นเรื่องราวที่ได้รับการเปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้ ของ เซระ อดีตไอดอลสาว กับสามีที่อายุมากกว่าเธอ 17 ปี
การพบกันครั้งแรก 4 ปีก่อน
ย้อนไปเมื่อ 4 ปีก่อน ทางรายการได้พบกับชายที่ชื่อ นากิ ซาโตะ อายุ 42 ปี ในย่านมัตสึโด จ.ชิบะ เมื่อทีมงานขอตามไปถ่ายทำที่บ้าน เขาก็ตอบตกลงทันที แถมยังเล่าเรื่องนี้ให้ภรรยาฟัง ซึ่งเธอก็ตอบรับด้วยความตื่นเต้นยินดีเช่นกัน
ภรรยาของเขาชื่อ เซระ ตอนนั้นอายุ 25 ปี เธออายุน้อยกว่าสามี 17 ปี การแต่งงานของทั้งคู่ถูกคัดค้านอย่างมาก แต่พวกเขาก็เมินเฉยต่อคำซุบซิบนินทา และเดินหน้าใช้ชีวิตคู่ร่วมกันอย่างแสนสุข โดยอาศัยอยู่ในห้องเช่าเล็ก ๆ ขนาด 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ค่าเช่ารายเดือน 64,000 เยน (ราว 13,000 บาท)
แม้ห้องจะเล็ก แต่ก็ตกแต่งอย่างอบอุ่นและสะดวกสบาย แถมยังมีรูปชีวิตคู่แสนสุขของพวกเขาติดโชว์อยู่ในบ้าน ขณะที่ลูกสาวของทั้งคู่เพิ่งอายุ 6 เดือน เธอเป็นเด็กน้อยที่เรียบร้อยน่ารัก โดยเซระนั้นเป็นแม่บ้านเต็มเวลา มีหน้าที่หลักในการดูแลบ้านและลูกน้อย
จากไอดอลใต้ดินสู่แม่บ้าน
อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้เหมือนกับแม่ทั่วไป จริง ๆ แล้วในอดีตเซระเคยเป็นไอดอลใต้ดินมาก่อน ตอนเรียนมหาวิทยาลัย เธอชอบที่จะร้องและเต้น และมีโอกาสได้ร่วมวงเกิร์ลกรุ๊ปใต้ดินกับเด็กสาวอีก 3 คน
ส่วน นากิ ซาโตะ เป็นหนึ่งในแฟนคลับของเธอ เขามีความสุขที่เห็นเธอแสดง พลังงานและความทุ่มเทของเธอตราตรึงในใจเขา ทำให้เขาอุทิศตนเพื่อเธออย่างเต็มที่ ยอมซื้อสินค้านับไม่ถ้วนเพื่อให้ได้มีโอกาสถ่ายรูปกับเธอ หรือได้คุยในระยะเวลาสั้น ๆ
ตอนที่วงของเธอแตกเนื่องจากความขัดแย้งภายใน เซระเลือกจะทิ้งข้อมูลติดต่อไว้ให้แฟนคลับที่คุ้นเคยกันไม่กี่คน หนึ่งในนั้นคือซาโตะ ซึ่งเขาก็ได้ชวนเธอไปกินมื้อเย็นด้วยกัน สานความสัมพันธ์จากไอดอล-แฟนคลับ กลายมาเป็นคนรู้จัก กระทั่งพัฒนาเป็นคนรัก
สิ่งที่ทำให้เซระชอบซาโตะ แม้จะมีอายุมากกว่าถึง 17 ปี ไม่ใช่แค่เพราะเขาเป็นแฟนคลับ แต่เขายังเป็นคนสุภาพ อดทน ไม่ว่าเธอจะทำอะไร เขาก็เต็มใจสนับสนุนและอยู่ตรงนั้นเพื่อเธอเสมอ
แต่ความสัมพันธ์นี้ถูกคัดค้านหลังจากพ่อแม่ของเซระ พ่อของเธอคัดค้านมาตลอดตั้งแต่ตอนที่เธอทำงานเป็นไอดอล เพราะพ่อเชื่อว่าลูกควรโฟกัสกับการเรียนมากกว่า และเขาก็ไม่ปลื้มที่เธอคบผู้ชายอายุมากกว่า ถึงขั้นบอกเลยว่าไม่ต้องการเห็นหน้าแฟนของลูกสาว
สุดท้ายเซระเลือกที่จะหนีออกจากบ้าน ไปแต่งงานกับซาโตะ จนกระทั่งมีลูกน้อยด้วยกัน แต่ถึงอย่างนั้นพ่อแม่เซระก็ยังไม่ยอมรับ
เซระอยากคืนดีกับที่บ้านมาตลอด เธอพยายามส่งการ์ดอวยพรไปให้พ่อ แต่ไม่เคยได้รับการตอบกลับ ในตอนนั้นเธอยังฝากข้อความผ่านทางรายการไปถึงพ่อด้วยว่า "เด็กเกิดมาปลอดภัยและเติบโตอย่างแข็งแรงดี หนูคงจะมีความสุขถ้าได้เจอพ่อและคืนดีกัน ถ้าเป็นไปได้ โปรดมาเป็นคุณตาของเด็กคนนี้ด้วยค่ะ"
จุดพลิกผันสุดสะเทือนใจ
สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดคือ ช่วงเวลาแห่งการคืนดีเพิ่งจะเกิดขึ้นจริง ๆ หลังจากที่เซระพบว่าตัวเองป่วยโรคมะเร็ง ขณะมีอายุเพียง 26 ปี โดยเธอเจอก้อนแข็ง ๆ ที่ข้อเท้า เดิมเธอคิดว่าคงเป็นแค่การอักเสบทั่วไป แต่หลังจากไปตรวจที่โรงพยาบาลหลายแห่ง กลับพบว่าตัวเองป่วยเป็นมะเร็ง
ในช่วงที่ได้รับยา ผมของเธอร่วงอย่างรวดเร็ว รวมถึงคิ้วและขนตา แม้แต่การเคลื่อนไหวเล็กน้อยก็ทำให้เธอเหนื่อยและอ่อนล้า ด้วยเหตุนี้เซระจึงรวบรวมความกล้าอีกครั้ง ติดต่อกลับไปหาครอบครัว
พ่อของเซระที่ดึงดันในการตัดสัมพันธ์กับลูกสาว เปลี่ยนท่าทีทันทีเมื่อได้ทราบเรื่องอาการป่วยนั้น เขาเริ่มมาเยี่ยมเธอบ่อย ๆ และยังช่วยพาหลานไปเล่น ซื้อของเล่นต่าง ๆ ให้ รวมถึงช่วยดูแลหลานตัวน้อยในช่วงที่เซระรับการรักษา
ชีวิตที่เต็มไปด้วยการพลิกผัน
ทางรายการโทรทัศน์ได้พบกับเซระอีกครั้ง หลังการพบกันเมื่อ 4 ปีก่อน และเรื่องราวของเธอก็ทำให้ผู้ชมสะเทือนใจอย่างมาก โดยมีการเปิดเผยว่าหลังจากที่เธอป่วย พ่อกับลูกเขยที่ไม่เคยเจอหน้ากัน ก็ได้มาพบกันครั้งแรกที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล เนื่องจากอาการป่วยของเซระ พวกเขาเพียงแค่พยักหน้าให้กัน และคุยกันเรื่องเด็กน้อยไม่กี่คำ แต่นั่นคือสัญญาว่าพ่อของเธอยอมรับในตัวเขาแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในตอนที่ความสัมพันธ์ในครอบครัวเพิ่งฟื้นฟู อาการป่วยของเซระก็เข้าสู่ระยะ 4 เซลล์มะเร็งกระจายไปทั่วตัว ทั้งหมดที่เธอทำได้คือการไปตรวจร่างกายและเฝ้าติดตามอาการเป็นระยะ
เซระ เผยว่า เธอเคยไล่ตามความฝัน ก่อนจะกลับมาอยู่กับความจริง เธอเคยไล่ตามความรักอย่างกล้าหาญ แต่กลับถูกตัดขาดจากครอบครัว เพิ่งจะได้รับการให้อภัย แต่กลับถูกโรคร้ายรุกราน อย่างไรก็ตาม "ทุกอย่างมี 2 ด้านเสมอ ถ้าเราโฟกัสกับด้านบวกมากกว่า เราก็จะใช้ชีวิตแบบที่ดียิ่งขึ้น"
แม้เธอจะเล่าเรื่องทั้งหมดด้วยรอยยิ้ม แต่เมื่อได้ฟังเรื่องของเธอ ผู้ชมหลายคนอดกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ ไม่คาดคิดว่าเรื่องราวความรัก ความฝัน และครอบครัวของหญิงคนนี้ จะเกิดความพลิกผันอย่างโหดร้าย
ขอบคุณข้อมูลจาก Hk01

ข่าวในพระราชสำนัก ข่าวในพระราชสํานักย้อนหลัง
ข่าวบันเทิงดาราไทยข่าวบันเทิงวันนี้ ข่าวบันเทิงล่าสุด
ข่าวบันเทิงเกาหลีข่าวบันเทิงเกาหลีวันนี้
ข่าวบันเทิงต่างประเทศข่าวดาราฮอลลีวู้ด และอื่นๆ
ข่าวเพลงใหม่ข่าวเพลงวันนี้
ข่าวหนังใหม่ข่าวหนังต่างประเทศ
ข่าวการเมืองข่าวการเมืองล่าสุด ข่าวการเมืองวันนี้
ข่าวเศรษฐกิจข่าวเศรษฐกิจโลก ข่าวเศรษฐกิจไทย
ข่าวต่างประเทศข่าวต่างประเทศวันนี้ ข่าวต่างประเทศล่าสุด
ข่าวประเทศจีนข่าวจีนวันนี้ ข่าวจีนแปลกๆ
ข่าวอาชญากรรมข่าวอาชญากรรมวันนี้ ข่าวอาชญากรรมล่าสุด
ข่าวปัญหาสังคมข่าวเตือนภัยสังคม
ข่าวยาเสพติดจับยาเสพติดวันนี้
ข่าวอุบัติเหตุคลิปอุบัติเหตุ อุบัติเหตุสยอง ข่าวอุบัติเหตุวันนี้
ข่าวสภาพอากาศ - น้ำท่วมข่าวพยากรณ์อากาศ น้ำท่วมล่าสุด
ข่าวภูมิภาคข่าวภูมิภาค 77 จังหวัด ข่าวภูมิภาควันนี้
ข่าวภาคใต้ข่าวภาคใต้ล่าสุด ข่าวด่วนภาคใต้
ข่าวกีฬาข่าวกีฬาวันนี้
ข่าวฟุตบอลข่าวกีฬาฟุตบอล ข่าวฟุตบอลทั้งหมด
ข่าวรถใหม่ข่าวรถยนต์ ราคารถใหม่ ข่าววงการรถ
ข่าวมือถือข่าวมือถือล่าสุด ราคามือถือ
ข่าววิทยาศาสตร์ข่าววิทยาศาสตร์ใหม่ น่ารู้
ข่าวไอทีอัพเดทข่าวไอที ข่าวไอทีวันนี้
ข่าวการศึกษาข่าวการศึกษาไทย ข่าวการศึกษาวันนี้
ข่าวอาเซียนข่าวอาเซียนวันนี้ ล่าสุด
ข่าวสุขภาพข่าวสุขภาพน่ารู้ สุขภาพวันนี้
ข่าวท่องเที่ยวข่าวท่องเที่ยวล่าสุด ข่าวท่องเที่ยวไทย
ข่าวหวยเลขเด็ดงวดนี้ ข่าวหวยดัง
ข่าว x-fileข่าวแปลกๆ เรื่องแปลกทั่วโลก เรื่องลึกลับ
ข่าวฮิตสังคมออนไลน์กระแสเรื่องฮิต จาก facebook twitter
คลิปข่าวคลิปข่าววันนี้ คลิปข่าวใหม่ คลิปข่าวล่าสุด
