ทลายรังสแกมเมอร์กลางกรุง ผงะงัดทริกแสบ ใช้ AI ปลดล็อกสแกนหน้าหลอกธนาคาร


          ตำรวจบุกทลายรังการเงินสแกมเมอร์ หนีมาจากกัมพูชามาอยู่กลางกรุง ผงะใช้ภาพนิ่งเหยื่อไปทำ Ai หลอกระบบธนาคาร 


ภาพจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

          วันที่ 9 พฤศจิกายน 2568 พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการให้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก ศอ.ปส.บช.น., บก.สส.บช.น., บก.น.5 และ สน.ทองหล่อ เข้าตรวจค้นคอนโดมิเนียมหรูภายในซอยสุขุมวิท 16 ตามหมายค้น โดยสามารถจับกุมชายชาวจีนแก๊งสแกมเมอร์ได้ 4 ราย พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ 60 เครื่อง และยาไอซ์พร้อมอุปกรณ์การเสพ

          เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันเป็นอั้งยี่, มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

          การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากปัจจุบัน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่ใช่เพียงปัญหาระดับชาติ แต่กลายเป็นปัญหาระดับโลก ล่าสุดเกิดปรากฏการณ์ โลกล้อม แก๊งสแกมเมอร์ โดยเจ้าหน้าที่จากหลายประเทศได้เข้าปฏิบัติการในประเทศกัมพูชา จนเกิดความสั่นคลอนราวกับผึ้งแตกรัง

          ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ. ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ติดตามสถานการณ์ทางการข่าวอย่างใกล้ชิด กระทั่ง พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร. สืบทราบเบาะแสว่ามีกลุ่มบอสชาวจีนรายใหญ่หลายรายหลบหนีจากประเทศกัมพูชาเข้ามากบดานในไทย โดยพบกลุ่มชาวจีนต้องสงสัย 4 ราย แอบขนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์จำนวนมาก พร้อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ลักษณะแปลก ๆ เข้าไปในคอนโดหรูภายในซอยสุขุมวิท 16


ภาพจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ


ภาพจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ


          ต่อมา เจ้าหน้าที่แฝงตัวเป็นช่างอาคารเพื่อหาเบาะแส จนพบว่ามีการตั้งห้อง วอร์รูม เป็นฐานบัญชาการอยู่ภายในคอนโดดังกล่าว และยังมีการมั่วสุมเสพยาเสพติดด้วย ในวันนี้ (9 พฤศจิกายน) จึงกำลังตำรวจพร้อมหมายค้นเข้าตรวจสอบห้องหรูในคอนโด โดยใช้ยุทธวิธีเข้าจับกุมอย่างฉับพลัน ทำให้กลุ่มผู้ต้องหาไม่ทันตั้งตัว และไม่สามารถทำลายพยานหลักฐานในคอมพิวเตอร์ได้

          ผลการตรวจค้นพบห้อง วอร์รูมสแกมเมอร์ ภายในมีคอมพิวเตอร์ 4 เครื่องซึ่งยังเปิดค้างอยู่ ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็น ทีมการเงินของแก๊งสแกมเมอร์ โดยตรวจพบ นวัตกรรมใหม่ คือการใช้ AI หลอก AI ด้วยการนำภาพนิ่งของเหยื่อผู้เสียหายมาเข้าสู่ระบบ AI เพื่อให้ขยับหน้าซ้าย–ขวา กะพริบตา และอ้าปาก จากนั้นนำคลิปที่ได้จากกระบวนการดังกล่าวไปใช้หลอกระบบ KYC (Know Your Customer) ของธนาคารและแพลตฟอร์มเงินดิจิทัล ซึ่งเป็นวิธีการที่อันตรายอย่างยิ่ง เพราะอาจทำให้ผู้เสียหายกลายเป็นผู้ต้องหาได้อย่างง่ายดาย

          เบื้องต้นพบว่าแก๊งนี้ลงมือหลอกเหยื่อชาวจีนด้วยกันเอง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังขยายผลว่ามีผู้เสียหายที่เป็นคนไทยด้วยหรือไม่


ภาพจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ


ภาพจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ


ภาพจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ



ภาพจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ


ภาพจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ


ภาพจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ




คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ ? รอโหลดข้อความของเพื่อน ๆ ด้านล่างนี้สักครู่ แล้วร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณได้เลย !
ทลายรังสแกมเมอร์กลางกรุง ผงะงัดทริกแสบ ใช้ AI ปลดล็อกสแกนหน้าหลอกธนาคาร โพสต์เมื่อ 9 พฤศจิกายน 2568 เวลา 19:35:47 แสดงความคิดเห็น