
บางคนเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับสิ่งของที่สกปรกที่สุดในโรงแรม ซึ่งหนึ่งในนั้นดูเหมือนว่าจะเป็นกาต้มน้ำ แต่มีบางสิ่งที่อาจจะสกปรกยิ่งกว่านั้นอย่างที่คาดไม่ถึง
วันที่ 16 ตุลาคม 2568 เว็บไซต์ CTWANT เผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้มีผู้ใช้โซเชียลในไต้หวันได้โพสต์แชร์ประสบการณ์ผ่านทางชุมชนออนไลน์ Dcard ระบุว่า เขาเคยทำงานเป็นพนักงานต้อนรับที่โรงแรมระดับ 4-5 ดาว หลายแห่งในเมืองไทเป และเคยช่วยงานในแผนกแม่บ้าน ทำให้เขารู้วิธีการทำความสะอาดสิ่งของในห้องพัก รวมไปถึงของที่สกปรกและสกปรกที่สุด ซึ่งคนนอกโดยทั่วไปไม่เคยรู้มาก่อน เป็นสิ่งที่คิดว่าสะอาด แต่จริง ๆ แล้วกลับสกปรกมาก
อดีตพนักงานโรงแรมรายนี้เผยว่า แก้วสำหรับดื่มน้ำที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้ในห้องพักมักถูกเช็ดด้วยผ้าที่สกปรก ซึ่งบางครั้งก็เป็นผ้าผืนเดียวกับที่ใช้เช็ดพื้นหรือเช็ดฝุ่น นอกจากนั้นแก้วเหล่านี้จะถูกทำความสะอาดเพียงแค่ล้างน้ำเปล่า สะบัด ๆ แล้วนำกลับมาวางไว้ที่เดิม ดังนั้น แก้วที่ดูเหมือนว่าใสสะอาดกลับสกปรกมากกว่าที่คิด
สิ่งที่สกปรกอันดับต่อมาคือ เตียง หลายคนเห็นชุดผ้าปูที่นอนและหมอนเป็นสีขาว แต่สีขาวไม่ได้หมายความว่าสะอาด ผู้โพสต์เผยว่า ที่นอนในห้องพักของโรงแรมมักจะไม่ได้รับการทำความสะอาดทุกครั้ง เว้นแต่จะมีความเสียหายหรือร่องรอยที่เห็นได้ชัด ทั้งนี้ ผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนมักจะถูกวางเก็บไว้ในที่อับชื้น สภาพแวดล้อมเช่นนี้เหมาะที่จะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อรา รวมไปถึงแมลง
และสิ่งที่สกปรกที่สุดในห้องพักของโรงแรมก็คือ ผ้าเช็ดตัว ทางโรงแรมได้เตรียมผ้าขนหนูไว้ให้สำหรับเช็ดตัวและเช็ดหน้า แต่เมื่อแขกออกจากห้องพักไปมันจะถูกนำไปใช้เช็ดแก้วและอ่างล้างหน้า รวมไปถึงสุขภัณฑ์ต่าง ๆ ในห้องน้ำ แม้ว่าหลังจากนั้นมันจะถูกนำไปซัก แต่อาจจะปนเปื้อนสิ่งสกปรกอย่างที่คาดไม่ถึง
สุดท้ายทางอดีตพนักงานโรงแรมรายนี้ได้แนะนำเหล่านักเดินทางว่า ควรจะเตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ในห้องน้ำมาเองเพื่อความสบายใจ รวมไปถึงผ้าเช็ดตัว เพราะแม้ว่าโรงแรมบางแห่งจะดูสะอาดมาก แต่สภาพที่เขาพบเห็นบ่อยครั้งจากการทำงานที่ผ่านมา ทำให้ความเชื่อเรื่องความสะอาดของโรงแรมลดลงอย่างมาก
โพสต์ดังกล่าวจุดประกายให้เกิดการถกเถียงอย่างร้อนแรงในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตหลายคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นมากมาย โดยมีทั้งคนที่ตกตะลึงและบางคนก็เคยได้ยินเรื่องนี้มาบ้าง
"ไม่แปลกใจเลยที่ฉันเป็นภูมิแพ้ผิวหนังอย่างรุนแรงทุกครั้งที่เข้าพักในโรงแรม"
"ฉันรู้มานานแล้ว เป็นเรื่องปกติของวงการโรงแรมในไต้หวันและประเทศอื่น ๆ"
"มีคนเคยพูดแบบนี้มาก่อน แต่คนรุ่นใหม่อาจจะเพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรกก็ได้"
ขอบคุณข้อมูลจาก CTWANT