
ภาพจาก สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร. หรือ NARIT) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เผย 23 กันยายน 2568 เป็น วันศารทวิษุวัต ช่วงเวลากลางวันและกลางคืนยาวนานเท่ากัน นับเป็นวันเริ่มต้นสู่ฤดูใบไม้ร่วงของประเทศทางซีกโลกเหนือ และเริ่มต้นสู่ฤดูใบไม้ผลิของประเทศในซีกโลกใต้
นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เปิดเผยว่า ในวันที่ 23 กันยายน 2568 เป็นวัน "ศารทวิษุวัต" (อ่านว่า สา-ระ-ทะ-วิ-สุ-วัด*) (Autumnal Equinox) ดวงอาทิตย์จะเคลื่อนมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับเส้นศูนย์สูตรของโลก ทำให้ดวงอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้าทางทิศตะวันออก และตกลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตกพอดี ส่งผลให้มีช่วงเวลากลางวันและกลางคืนยาวนานเท่ากัน นับเป็นวันเริ่มต้นสู่ฤดูใบไม้ร่วงของประเทศทางซีกโลกเหนือ ในทวีปเอเชียบางประเทศ ยุโรป อเมริกาเหนือ และแอฟริกาตอนเหนือ และเริ่มต้นสู่ฤดูใบไม้ผลิของประเทศทางซีกโลกใต้ ในทวีปอเมริกาใต้บางประเทศ แอฟริกาตอนใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้

ภาพจาก สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)
สำหรับประเทศไทย วันดังกล่าวดวงอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้าเวลาประมาณ 06.07 น. และจะตกลับขอบฟ้าประมาณ 18.13 น. (เวลา ณ กรุงเทพมหานคร) การที่ช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์ขึ้นและตกในวันดังกล่าวปรากฏไม่เท่ากัน

ภาพจาก สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)
เนื่องจากการนิยาม ดวงอาทิตย์ขึ้น-ตก นั้น อ้างอิงจากตำแหน่ง ขอบบนของดวงอาทิตย์ ที่สัมผัสกับเส้นขอบฟ้า (ไม่ใช่จุดกึ่งกลางของดวงอาทิตย์) กล่าวคือ เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นจะนับเวลาเมื่อขอบบนของดวงอาทิตย์ปรากฏแตะเส้นขอบฟ้าทางทิศตะวันออก และเมื่อดวงอาทิตย์ตกจะนับเวลาเมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปทั้งดวงทางทิศตะวันตก รวมทั้งการหักเหของแสงในชั้นบรรยากาศ ด้วยสองปัจจัยนี้ทำให้ ช่วงเวลาที่นับว่า "กลางวัน" จะยาวขึ้นประมาณ 8-10 นาที (ขึ้นอยู่กับละติจูดและสภาพบรรยากาศ) โดยในทางดาราศาสตร์ "วันวิษุวัต" หมายถึง วันที่ดวงอาทิตย์โคจรอยู่บนเส้นศูนย์สูตรฟ้า (Celestial Equator) พอดี หากนับตามเวลาที่ จุดกึ่งกลางของดวงอาทิตย์ เคลื่อนผ่านเส้นขอบฟ้า วันดังกล่าวจะนับว่ามีช่วงเวลากลางวันและกลางคืนยาวนานเท่ากัน คือ 12 ชั่วโมงพอดี
สำหรับคำว่า Equinox (อิ-ควิ-นอกซ์) มีรากศัพท์มาจากภาษาละติน 2 คำ คือ aequus แปลว่า เท่ากัน และ nox แปลว่า กลางคืน ดังนั้น จึงแปลรวมกันว่า "กลางวันยาวนานเท่ากับกลางคืน" ซึ่งตรงกับคำว่า วิษุวัต (विषुवत्) ในภาษาสันสกฤต ที่แปลว่า จุดราตรีเสมอภาค เหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นเพียงปีละ 2 ครั้ง ได้แก่ ในช่วงเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ เรียกว่า Vernal Equinox (วสันตวิษุวัต) และในช่วงเริ่มต้นฤดูใบไม้ร่วง เรียกว่า Autumnal Equinox (ศารทวิษุวัต)

ภาพจาก สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)
สำหรับปรากฏการณ์ต่อไปที่เกี่ยวข้องกับการขึ้น-ตกของดวงอาทิตย์ในปีนี้ คือ "วันเหมายัน" (Winter Solstice) ซึ่งจะตรงกับวันที่ 21 ธันวาคม 2568 เป็นวันที่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงไปทางใต้มากที่สุด และตกทางทิศตะวันตกเฉียงไปทางใต้มากที่สุด ส่งผลให้ช่วงเวลากลางวันสั้นที่สุด และกลางคืนยาวที่สุดในรอบปี หรือที่คนไทยเรียกว่า "ตะวันอ้อมข้าว" สำหรับประเทศทางซีกโลกเหนือ นับเป็นวันที่ย่างเข้าสู่ฤดูหนาว ส่วนประเทศทางซีกโลกใต้จะมีช่วงกลางวันยาวนานที่สุดในรอบปี นับเป็นวันที่ย่างเข้าสู่ฤดูร้อน
*ศารท (शारद) เป็นคำภาษาสันสกฤต อ่านว่า สา-ระ-ทะ