
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
กลายเป็นประเด็นร้อนภายหลังการเสียชีวิตของ เอ๋ ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดงผู้ล่วงลับ กรณี เอ๋ พลอยรัตน์ ซึ่งระบุว่าเป็นภรรยาของ เอ๋ ไพโรจน์ กำลังดำเนินการทางกฎหมายเพื่อเรียกร้องสิทธิ์ในทรัพย์สิน รวมถึงบ้านที่เคยอาศัยอยู่ร่วมกัน หลังถูกลูกสาวของฝ่ายชายกีดกัน ขณะที่ เบส ปณิชชา ลูกสาวของเอ๋ ไพโรจน์ ให้ข้อมูลคนละมุม ระบุว่า พ่อได้เลิกรากับฝ่ายหญิงไปหลายปีแล้ว และอีกฝ่ายไม่ได้เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้มีทะเบียนสมรส จึงไม่มีสิทธิ์ในทรัพย์สิน โดยประเด็นสำคัญมีดังนี้
เมียใหม่ ชี้ถูกไล่จากบ้านที่อยู่กับ เอ๋ ไพโรจน์ กว่า 20 ปี ถูกลูกสาวสามีกีดกันเข้าถึงทรัพย์สิน
เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 น.ส.พลอยรัชษ์ ชินรัตน์ อายุ 50 ปี เข้าร้องเรียนกับอัยการเพื่อขอคำปรึกษาทางกฎหมาย กรณีถูกให้ออกจากบ้านที่อาศัยอยู่กับสามีนานกว่า 20 ปี โดยระบุว่า ตนคบหากับ เอ๋ ไพโรจน์ ตั้งแต่ปี 2547 ก่อนจะจัดงานแต่งที่กรุงเวียนนา ปี 2552 แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส หลังการเสียชีวิตของ เอ๋ ไพโรจน์ เกิดความขัดแย้งกับลูกสาวจากภรรยาคนแรก ซึ่งร้องต่อศาลขอเป็นผู้จัดการมรดกและเปลี่ยนกุญแจบ้าน ทำให้เธอไม่สามารถเข้าไปอยู่หรือเข้าถึงทรัพย์สินบางส่วน เช่น ฮาร์ดดิสก์ แหวนมรดก และพระเครื่องได้
บ้านหลังดังกล่าวเนื้อที่ประมาณ 80 ตารางวา ตั้งอยู่ในพื้นที่สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ เธอและ เอ๋ ไพโรจน์ รีโนเวตเป็นสตูดิโอและอาศัยอยู่ร่วมกัน แม้ไม่ได้จดทะเบียนสมรส แต่มีชื่อในทะเบียนบ้านตั้งแต่ปี 2551 หลังวันที่ 1 กรกฎาคม พบว่ากุญแจบ้านถูกเปลี่ยน จึงแจ้งความที่ สภ.สำโรงเหนือ เพื่อให้ตำรวจเป็นพยานและตรวจสอบทรัพย์สินในบ้าน

ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
ต่อมาเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ขณะกลับเข้าไปในบ้าน เธอถูกตำรวจแจ้งว่าเป็นบุกรุกและต้องออกจากบ้าน ทั้งที่อาศัยอยู่มา 20 ปี ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจและมาขอคำปรึกษาทางกฎหมายเพื่อปกป้องสิทธิของตนเอง
นอกจากนี้ ยังติดใจเรื่องของการเสียชีวิตของ เอ๋ ไพโรจน์ รวมถึงอยากจะพูดคุยกับทางลูกสาวของคุณไพโรจน์ อยากทราบสาเหตุการเสียชีวิตจริง ๆ ว่าตรงกับข้อมูลที่ได้มามากน้อยแค่ไหน หากไม่ตรงไม่เป็นธรรมต่อผู้วายชนม์ เราจะสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปดำเนินการได้อย่างไร เพื่อไม่ให้เป็นการกระทบกระทั่ง และเป็นการเคารพต่อผู้เสียชีวิตไป
ส่วนของบ้านอยู่ในกระบวนการฟ้องร้องต่อศาล จึงไม่อยากให้มีใครเข้าไปทำให้เกิดความวุ่นวายในลักษณะที่ทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยถูกรุกล้ำและรบกวน ยืนยันว่าเราเคารพในการดำเนินการของหลักกฎหมาย
ลูกสาวเอ๋ ไพโรจน์ ยันพ่อเลิกไปนานแล้ว อีกฝ่ายไม่มีสิทธิ์ในทรัพย์สิน แจงสาเหตุเสียชีวิต
เบส ปณิชชา ลูกสาวของเอ๋ ไพโรจน์ ชี้แจงกับช่อง 3 โดยยกคำพูดจากคุณพ่อที่เคยออกรายการ คลับฟายเดย์ โชว์ วันที่ 6 เมษายน 2567 ซึ่งเธอนั้นมองว่าคุณพ่อได้พูดชัดแล้วว่ามีปัญหา และเลิกรากับภรรยาคนนี้ไปแล้ว
ช่วงหนึ่งในรายการ เอ๋ ไพโรจน์ ยอมรับว่า ความต่างระหว่างวัยกับคนรัก (21 ปี) มีผลกับความรัก เป็นปัญหาอยู่ด้วยเหมือนกัน ที่พอมาถึงจุด ๆ หนึ่ง มันก็ทำให้ต่างคนต่างมีความฝัน เราก็จะไปทางนี้ ความฝันที่ยิ่งใหญ่ของคนเรามันไม่สามารถสร้างได้คนเดียว มันต้องจับมือไปด้วยกัน แต่เมื่อมันไม่สามารถจับมือไปด้วยกัน เพราะเราจะไปทางนี้ เขาจะไปทางนู้น อันนี้มันคือปัญหาที่เกิดขึ้น ก็ต้องกลับมาตกลงกันอีกว่า ถ้าคุณเป็นผู้ตามที่ดีไม่ได้ คุณก็ต้องไปเป็นผู้นำอีกทางหนึ่ง แต่ผมก็คงไปเป็นผู้ตามไม่ได้ เพราะอย่างนั้นต่างคนก็ต่าง (ทำมือว่าต้องไปคนละเส้นทางกัน) แต่เราก็ไม่ได้โกรธกัน

ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
เบส ปณิชชา บอกว่า พ่อได้พูดความในใจทุกอย่างในรายการไปหมดแล้ว ยืนยันแล้วว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ภรรยาของพ่อแล้ว ตอนที่รู้ว่าทั้งคู่เลิกกันคือ 4-5 ปี ก่อนหน้า ถ้าจะนับมาจนถึงปัจจุบัน มันก็น่าจะ 6 ปีได้แล้ว
ปัญหาตอนนี้คือ อีกฝ่ายพยายามอ้างว่าเป็นเมียซึ่งมีสิทธิ์ในทรัพย์สินพ่อ แต่ในความเป็นจริงเขาไม่ได้เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้มีทะเบียนสมรส ไม่มีสิทธิ์อะไรอยู่แล้ว แต่เขาอยากได้เยอะ หลังจากเสร็จงานพ่อ เบสได้โทร. คุยกับเขาเรื่องสิทธิ์ในทรัพย์สิน เสนอเงินให้เขา 1 ก้อนเพื่อให้เขาไปเริ่มต้นด้วย มันก็ไม่ได้เยอะหรอก เพราะว่าที่บ้านก็ยังมีหนี้ พ่อก็ยังมีหนี้ แล้วเขาก็ต้องไปหาที่อยู่ใหม่หรืออะไรก็ตาม แต่เขาอยากได้เยอะกว่านั้น

ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
แต่ว่าปัญหาตั้งแต่เลิกกัน ที่ว่าทำไมถึงอยู่ในบ้าน เป็นเพราะว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ยอมออกจากบ้าน ซึ่งตลอดเวลาพ่อก็พูดกี่ครั้งก็ไม่เคยออกไป ก็ลากยาวมาจนถึงพ่อเสียชีวิต เขาก็พยายามจะสร้างประเด็นว่า เขายังเป็นเมียพ่อที่คบกันอยู่จนวันที่พ่อเสียชีวิต เพื่อที่จะบอกว่าเขามีส่วนในทรัพย์สินของพ่อ ซึ่งในความเป็นจริงก็คือทะเบียนสมรสไม่ได้มี แล้วก็เลิกกันแล้ว แยกกันแล้ว เพียงแต่ว่าพ่อยังให้ที่อาศัยอยู่
สิทธิ์ในตัวบ้านหรือรถเขาไม่ได้มี ทั้งรถ ทั้งบ้าน เป็นชื่อพ่อ ส่วนบ้านนี้เธอก็อยู่ตั้งแต่เป็นเด็กแล้ว ป้า ปู่ ย่า ก็อยู่บ้านนี้ เลยไม่เข้าใจว่าสิ่งที่อีกฝ่ายเรียกร้องมันคือยังไง มันไม่ใช่ทรัพย์ที่หาได้ร่วมกัน หรืออะไรที่แบบจะมาเรียกสิทธิ์ได้

ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
ประเด็นที่ พลอยรัชษ์ ติดใจเรื่องสาเหตุการเสียชีวิตของคุณพ่อ คุณเบสบอกว่า มันชัดเจนอยู่แล้วในใบมรณบัตร อีกฝ่ายไม่ได้ไปรับศพพ่อ ไม่ได้ไปยื่นเอกสาร ไม่ได้ทำอะไรเลย คนที่ทำทั้งหมดอ่ะคือเธอ ในใบมรณบัตรก็ชัดเจนว่าเป็นลิ่มเลือดหัวใจอุดตัน ถามกลับว่าที่อีกฝ่ายบอกว่าอยู่กับพ่อ บอกว่าเป็นเมีย แล้วจะไม่รู้เลยเหรอว่าพ่อมีอาการลิ้นแข็ง พูดไม่ชัดมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว จะมาติดใจอะไร พยายามสร้างประเด็นใช่ไหม หลังจากนี้ว่ากันไปตามกระบวนการกฎหมาย

ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้