สรุปคำพิพากษาคดีน้องชมพู่ ศาลชี้ 2 ครอบครัวมีปมขัดแย้ง - ป้าแต๋น ยันสู้ถึงฎีกา


          เปิดคำพิพากษา จำคุก ลุงพล 26 ปี คดีฆาตกรรมน้องชมพู่ ศาลพบปมขัดแย้ง 2 ครอบครัว ชี้เด็กไม่อาจเดินขึ้นเขาเองได้ ด้านป้าแต๋นขอสู้ถึงฎีกา 

คำพิพากษา ลุงพล คุก 26 ปี ศาลมอง ปมขัดแย้งครอบครัวน้องชมพู่
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

          กรณีศาลศาลอุทธรณ์ พิพากษา นายไชยพล วิภา หรือ ลุงพล คดีน้องชมพู่ โดยแก้โทษจากประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นเจตนาฆ่าโดยเล็งเห็นผล มีโทษจำคุก 15 ปี และยังมีความผิดฐานพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยไม่มีเหตุอันสมควรโทษจำคุก 10 ปี และอำพรางศพ โทษจำคุก 1 ปี รวมทั้งหมด 26 ปี นั้น

          วันที่ 15 สิงหาคม 2568  ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์​ โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ทนายคู่ใจ ระบุว่า ศาลยุติธรรม เผยแพร่ สรุปคำพิพากษาคดีน้องชมพู่ โดยสรุปได้ว่า  2 ครอบครัว (ลุงพล- บ้านน้องชมพู่) มีเหตุขัดแย้ง ปมก่อเหตุฆาตกรรม น้องชมพู่ เชื่อผู้ตายเดินขึ้นยอดภูเหล็กไฟเองไม่ได้ พร้อมชี้แจงไม่ให้ประกัน ลุงพลโทษหนักหวั่นหลบหนี           ช่วงหนึ่งของคำพิพากษา ระบุว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิจารณาพยานหลักฐานในสำนวนคดีแล้ว มีความเห็นโดยสรุปว่า การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีนี้เป็นการรวบรวมพยานหลักฐานไปตามอำนาจหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่มีเหตุให้ระแวงสงสัยว่า มีการปั้นแต่งพยานหลักฐานเท็จเพื่อใส่ร้ายผู้ใดโดยไม่มีมูลความจริง แม้ไม่มีประจักษ์พยานมาเบิกความ แต่เมื่อพิจารณาจากพฤติการณ์แวดล้อมคดีใกล้ชิดกับเวลาและสถานที่เกิดเหตุแล้ว เชื่อว่า ผู้ตาย (น้องชมพู่) ไม่อาจเดินไปบนยอดเขาภูเหล็กไฟที่พบศพได้ด้วยตนเองเป็นแน่ และไม่ได้ถอดเสื้อและกางเกงของตนเองออก แต่มีคนร้ายพาตัวผู้ตายขึ้นไปบนเขาภูเหล็กไฟ และตัดผมผู้ตาย รวมถึงถอดเสื้อผ้าและกางเกงของผู้ตายออกเพื่ออำพรางคดี

คำพิพากษา ลุงพล คุก 26 ปี ศาลมอง ปมขัดแย้งครอบครัวน้องชมพู่
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

          เมื่อพิจารณาประกอบกับการที่มีพยานแวดล้อมเห็น จำเลยที่ 1 (ลุงพล) อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ อีกทั้งพยานหลักฐานที่ได้รับการตรวจพิสูจน์ด้วยวิธีการที่น่าเชื่อถือทางวิทยาศาสตร์ยังบ่งชี้ว่า รอยตัดเส้นผมหรือเส้นขนที่อยู่ในรถยนต์ของจำเลยที่ 1 มีองศาเดียวกันกับรอยตัดเส้นผมหรือเส้นขนบริเวณที่พบศพผู้ตาย คือ มีรอยเฉียง 26 องศา เท่ากัน รวมถึงครอบครัวของโจทก์ร่วมทั้งสองกับจำเลยทั้งสองเคยมีสาเหตุไม่พอใจกันมาก่อน ประกอบกับพยานหลักฐานอื่น ๆ จึงฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 มีเจตนาฆ่าผู้ตายโดยเล็งเห็นผล 

          พยานหลักฐานที่จำเลยที่ 1 นำสืบมามีพิรุธหลายประการ ข้อต่อสู้ของจำเลยที่ 1 ยังไม่เพียงพอให้รับฟังหักล้างพยานโจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสอง ส่วนจำเลยที่ 2 (ป้าแต๋น) พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมายังมีข้อสงสัยตามสมควร ให้ยกฟ้อง

          พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ฐานทอดทิ้งเด็กเป็นเหตุให้เด็กที่ถูกทอดทิ้งถึงแก่ความตาย ฐานพรากเด็ก และฐานร่วมกันกระทำการใด ๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น รวมจำคุก 26 ปี ให้จำเลยที่ 1 ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมที่ 1 เป็นเงิน 1,350,000 บาท และชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ร่วมที่ 2 เป็นเงิน 1 ,200,000 บาท

          อนึ่ง ภายหลังอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีการยื่นคำร้องขอให้ปล่อยตัวจำเลยที่ 1 ชั่วคราวระหว่างการใช้สิทธิยื่นฎีกา ศาลจังหวัดมุกดาหารมีคำสั่งให้ส่งศาลฎีกาพิจารณา ซึ่งภายหลังศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อความรู้สึกด้านลบต่อสังคม ทั้งศาลอุทธรณ์ภาค 4 จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนดถึง 26 ปี นับว่าเป็นโทษสถานหนัก หากได้รับการปล่อยชั่วคราวอาจหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยจำเลยที่ 1 ชั่วคราวในระหว่างฎีกา ยกคำร้อง

คำพิพากษา ลุงพล คุก 26 ปี ศาลมอง ปมขัดแย้งครอบครัวน้องชมพู่
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

ลุงพล วืดประกันตัว ถูกย้ายเข้าเรือนจำ ป้าแต๋น เข้าเยี่ยม ยันสู้คดีถึงฎีกา


          ขณะที่ ข่าวช่อง 3 รายงานว่า ลุงพล ถูกคุมตัวมาที่เรือนจำกลางจังหวัดนครพนม คาดว่าจะเข้าไปสู่แดนแรกรับ ก่อนตรวจร่างกายและตรวจโรคตามขั้นตอนต่อไป โดยช่วงเวลาใกล้กัน นางสมพร หรือ ป้าแต๋น ภรรยาลุงพล เดินทางมาที่เรือนจำเพื่อขอเข้าเยี่ยมลุงพลทันที

          ป้าแต๋น บอกว่า วันนี้เอาหัวใจ 1 ดวงมาฝากลุงพล และมาให้กำลังใจสามี เมื่อถามว่าจะสู้ถึงฎีกาหรือไม่ ป้าแต๋น กล่าวว่า ก็ต้องสู้สิคะ ซึ่งตนนั้นยังไม่ได้พูดคุยกับลุงพลตั้งแต่อยู่ที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหารเลย ส่วนกับข้าวในวันนี้ยังไม่ได้เอาอะไรมาฝากลุงพล

          มีรายงานว่า สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายลุงพลมาคุมขังที่เรือนจำกลางจังหวัดนครพนม เนื่องจากเป็นเรือนจำที่สามารถคุมขังนักโทษที่ต้องโทษในคดีต่าง ๆ สูงสุด 25 ปี ในระหว่างที่ลุงพลถูกจองจำและต่อสู้ในศาลชั้นฎีกาต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ทนายคู่ใจ, ข่าวช่อง 3


          


คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ ? รอโหลดข้อความของเพื่อน ๆ ด้านล่างนี้สักครู่ แล้วร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณได้เลย !
สรุปคำพิพากษาคดีน้องชมพู่ ศาลชี้ 2 ครอบครัวมีปมขัดแย้ง - ป้าแต๋น ยันสู้ถึงฎีกา โพสต์เมื่อ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 15:58:38 10,424 อ่าน แสดงความคิดเห็น