เรื่องสะเทือนใจวัยชรา ผัวเห็นเมียล้มแต่ไม่ช่วย แม้รักมาก สาเหตุน่าเศร้า น้องรู้ยังช็อก

          เรื่องสะเทือนใจวัยชรา สามีเป็นอาจารย์ที่คนนับถือ แต่กลับไม่ช่วยตอนภรรยาล้ม ภรรยาตายยังไม่รู้ เหตุสมองเสื่อม จำไม่ได้ น้องชายจำใจส่งบ้านพักคนชรา 

เรื่องสะเทือนใจวัยชรา ผัวเห็นเมียล้มแต่ไม่ช่วย
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          วันที่ 11 สิงหาคม 2568 เว็บไซต์ CTWANT รายงานว่าเรื่องราวสุดเศร้าที่เกิดขึ้นกับคู่สามี-ภรรยาชาวญี่ปุ่น ที่อาศัยอยู่กัน 2 คนโดยไม่มีลูก ในขณะที่คนรอบข้างมองว่าทั้งคู่รักกันดีและสามารถดูแลกันและกันได้ในวัยชรา แต่ในช่วงเวลาสำคัญที่
ภรรยาล้มลงหน้าบ้าน กลายเป็นว่าฝ่ายสามีกลับมองผ่าน ไม่ลงมือช่วยเหลือใด ๆ ปล่อยให้ภรรยาเสียชีวิต เหตุเพราะโรคสมองเสื่อมทำให้เขาจำภรรยาไม่ได้ 

          การจากลาของทั้งคู่ไม่เพียงแค่จะเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่ยังนำมาสู่ความวุ่นวายในเรื่องมรดก ที่บุคคลที่สามต้องเข้ามาจัดการเอง เพราะทั้งคู่ไม่ได้วางแผนในเรื่องนี้ไว้ อีกทั้งฝ่ายสามียังไม่อยู่ในสภาพที่สามารถดำเนินการด้วยตัวเอง

          เรื่องดังกล่าวได้รับการเปิดเผยโดย ทัตสึโนริ ชายวัย 60 กว่าปี ที่เพิ่งมาขอความช่วยเหลือจากที่ปรึกษาด้านมรดก โดยเล่าว่า ครอบครัวเขามีกัน 2 พี่น้อง พี่ชายซึ่งมีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ทำงานเป็นนักวิจัยอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง ก่อนจะทำงานเป็นศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยระดับชาติ จนกระทั่งเกษียณเมื่ออายุ 70 ปี 

          เป็นเวลาหลายปีที่พี่ชายกับภรรยาใช้ชีวิตเงียบ ๆ อยู่ในบ้านที่สร้างขึ้นใหม่ใกล้มหาวิทยาลัย ทั้งคู่ไม่มีลูก แต่เขาก็เชื่อมาตลอดว่าทั้งคู่จะดูแลกันและกันได้จนแก่เฒ่า เขาเคารพนับถือพี่มาโดยตลอด แต่อยู่ ๆ เมื่อต้นปีที่ผ่านมากลับได้ทราบข่าวร้าย ว่าพี่สะใภ้วัย 70 ปี เสียชีวิตลง โดยที่พี่ชายของเขาไม่ลงมือช่วยเหลือใด ๆ 
 
          น้องชายของพี่สะใภ้เป็นคนโทร. มาแจ้งข่าว บอกว่าพี่สะใภ้เสียชีวิตแล้ว เนื่องจากพี่ชายไม่ได้โทร. มาหา ทัตสึโนริจึงช็อกมากที่ทราบเรื่องกะทันหัน โดยน้องของพี่สะใภ้เล่าว่า พี่สะใภ้ล้มที่หน้าบ้าน กว่าตำรวจจะมาเจอเธอก็เสียชีวิตไปหลายวันแล้ว สาเหตุการเสียชีวิตคือเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง 

          สิ่งที่เขาอึ้งกว่าคือ โรคสมองเสื่อมของพี่ชายแย่ลง จนถึงจุดที่จำไม่ได้ว่าหญิงที่ล้มอยู่นั้นคือ
ภรรยาของตัวเอง แถมยังถามอีกว่า "คนนี้คือใคร ?" ด้วยเหตุนี้พี่ชายจึงไม่ได้ช่วยเหลือภรรยา
 
          ทัตสึโนริ เผยว่า ที่จริงแล้วพี่ชายของเขาเริ่มมีอาการสมองเสื่อมหลังเกษียณ แต่เพราะทั้งคู่แทบไม่ได้เจอกัน เขาจึงรู้แค่ว่าพี่ชายจำเป็นต้องมีคนดูแล แต่ไม่คิดว่าอาการจะแย่ลงขนาดนี้ โดยหลังจากพี่สะใภ้เสียชีวิต พี่ชายได้ถูกส่งไปอยู่ในศูนย์ดูแลชั่วคราว 
 
          อย่างไรก็ตาม พี่สะใภ้ของเขาไม่ได้ทำพินัยกรรมใด ๆ ไว้ ซึ่งตามกฎหมายผู้ที่จะได้รับมรดก ก็คือสามี และน้องชายทั้ง 2 คนของเธอ โชคยังดีที่พี่สะใภ้ได้ทำบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินที่มีไว้ก่อนตาย ทำให้รู้ว่าเธอมีอสังหาริมทรัพย์เป็นบ้านที่อยู่กับสามี รวมถึงมีเงินเก็บในบัญชีธนาคาร 20 ล้านเยน และหุ้นอีกมูลค่า 50 ล้านเยน 
  
          น้องชายของพี่สะใภ้ ต้องการหุ้นในส่วนที่พี่สะใภ้รับสืบทอดมาจากพ่อแม่ สุดท้ายทั้ง 2 ฝ่ายจึงมาแบ่งมรดกตามสัดส่วนที่กฎหมายกำหนด และมีการลงนามร่วมกัน 

           ทัตสึโนริเผยว่า พี่ชายของเขานั้น ที่ผ่านมาพี่สะใภ้เป็นคนทำงานบ้านทั้งหมด พี่ชายของเขาทำอาหารไม่ได้ ทำความสะอาดไม่เป็น คงเป็นเรื่องยากที่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีหากต้องอยู่คนเดียว ดังนั้น สุดท้ายเขาจึงตัดสินใจส่งพี่ชายไปอยู่บ้านพักคนชรา ที่ใช้เวลาขับรถจากบ้านเขาไปประมาณ 20 นาที เพื่อให้มีคนดูแล 

          จากเรื่องที่เกิดขึ้น กลายมาเป็นเครื่องเตือนใจผู้คนให้วางแผนหลังเกษียณรวมถึงจัดการทรัพย์สินต่าง ๆ ไว้ให้ดี เพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อถึงวันที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจากไป จะไม่ต้องเกิดความวุ่นวายในการจัดการสิ่งต่าง ๆ หลังจากนั้น
  
 
ขอบคุณข้อมูลจาก CTWANT 

คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ ? รอโหลดข้อความของเพื่อน ๆ ด้านล่างนี้สักครู่ แล้วร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณได้เลย !
เรื่องสะเทือนใจวัยชรา ผัวเห็นเมียล้มแต่ไม่ช่วย แม้รักมาก สาเหตุน่าเศร้า น้องรู้ยังช็อก โพสต์เมื่อ 13 สิงหาคม 2568 เวลา 20:26:17 แสดงความคิดเห็น