
ภาพจาก Sohu
วันที่ 13 สิงหาคม 2568 เว็บไซต์เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่า ภาพการใช้ชีวิตของแม่ลูกชาวญี่ปุ่นคู่หนึ่ง กลายมาเป็นที่สนใจอย่างมากบนโลกออนไลน์ หลังมีรายการโทรศัพท์บุกไปถ่ายทำถึงบ้าน เผยให้เห็นสภาพแวดล้อมในการใช้ชีวิตของทั้งคู่ที่ราวกับอยู่ในกองขยะ แม้ชีวิตจะไม่ได้ลำบาก เป็นเจ้าของห้องเช่าที่มีรายได้ต่อเดือนมากกว่า 400,000 เยน (ราว 87,000 บาท)
โดยทีมงานของรายการวาไรตี้ "ฉันไปที่บ้านคุณได้ไหม" จะเข้าไปสัมภาษณ์ผู้คนที่พลาดรถบัสเที่ยวสุดท้าย พร้อมเสนอจะออกค่ารถกลับบ้านให้ แลกเปลี่ยนกับการให้ทีมงานตามไปบันทึกภาพบ้านของพวกเขา ซึ่งเป้าหมายในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ก็คือแม่ลูกคู่หนึ่ง

ภาพจาก Sohu
นาชิโกะ ทานากะ แม่วัย 83 ปี กับ อากาเนะ ลูกสาววัย 47 ปี มาจากย่านที่คึกคักในกรุงโตเกียว แม้พวกจะใช้ชีวิตแบบคนว่างงาน แต่ก็ไม่ได้ลำบากอะไรนัก เนื่องจากเป็นเจ้าของแฟลต 2 ช่วงตึก ที่มีห้องพักอยู่ 7 ยูนิต โดยพวกเธอใช้อยู่อาศัยเอง 4 ยูนิต และปล่อยเช่าห้องที่เหลือ ซึ่งสร้างรายได้ให้มากกว่าเดือนละ 400,000 เยน อีกทั้งยังมีเงินบำนาญที่พ่อผู้ล่วงลับทิ้งไว้ให้
อย่างไรก็ตาม แม่ลูกมักจะสั่งอาหารเดลิเวอรี่มาที่บ้าน ไปอาบน้ำที่ห้องน้ำสาธารณะ และใช้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญที่อยู่ใกล้ ๆ แทนที่จะทำทุกอย่างในบ้านของตัวเอง ซึ่งเมื่อทีมงานตามไปถึงบ้านของพวกเธอก็ทราบคำตอบว่าเหตุใดพวกเธอจึงมีไลฟ์สไตล์เช่นนั้น
แค่เพียงเปิดประตูบ้าน ก็เผยให้เห็นสภาพความรกรุงรังที่อยู่ภายใน บริเวณทางเข้ากองไปด้วยกล่องพัสดุที่ยังไม่ได้เปิด ขณะที่ภายในห้องนั่งเล่นเต็มไปด้วยหนังสือ เศษกระป๋อง และถุงช้อปปิ้งที่วางสุมไว้เป็นกองสูง เคาน์เตอร์ในครัวเต็มไปด้วยเครื่องปรุงรสและจานชาม หม้อหุงข้าวใช้งานไม่ได้ และยังมีอาหารมากมายที่หมดอายุไปแล้วแม้จะยังไม่ได้แกะกิน
ประตูห้องนอนสามารถเปิดแง้มได้แค่ช่องเล็ก ๆ เนื่องจากมีของสุมรกเกินไป จนอดสงสัยไม่ได้ว่าแม่ลูกคู่นี้นอนกันยังไง
แทนคำตอบ หญิงชราเพียงนั่งทับลงไปบนข้าวของที่กองอยู่บนพื้น ใช้มือกวาดของบางส่วนออกไปข้าง ๆ ก่อนจะนอนลงไปบนพื้น เพื่อสาธิตให้เห็นภาพว่าพวกเธอนอนกันแบบนี้

ภาพจาก Sohu
"เราซื้อของที่ชอบมา แต่ไม่เคยใช้ทันเวลา จึงกองสะสมไว้เรื่อย ๆ ตอนที่เราจะเริ่มทำความสะอาดก็รู้สึกเหนื่อยและยอมแพ้ไป" นาชิโกะ อธิบาย และเล่าว่าจริง ๆ แล้วเธอมาจากครอบครัวที่ทำธุรกิจจนร่ำรวย ขณะที่สามีนั้นทำงานแวดวงการศึกษา
ขณะที่ อากาเนะ ผู้เป็นลูก เล่าว่า พ่อมักจะพาพวกเธอไปเที่ยวต่างประเทศ ครอบครัวมักได้ใช้ข้าวของดี ๆ และกินดี พ่อของเธอเป็นคนที่ใส่ใจครอบครัวมาก เขามักทำอาหารให้ ส่วนงานบ้านก็มีสาวใช้คอยดูแล พวกเธอยังเคยเลี้ยงสุนัข และมีความสุขกันมากทั้งบ้าน
อย่างไรก็ตาม หลังพ่อเสียชีวิต พี่น้องของเธอก็ย้ายออกจากบ้านไป ทิ้งให้เธอกับแม่อยู่ที่บ้านแห่งนี้ นับจากนั้นแม่ลูกก็เหมือนคนหลงทาง พวกเธอไม่มีจุดหมายในชีวิต ไม่มีการงานทำ ต้องพยายามดิ้นรนดูแลตัวเอง จนสุดท้ายบ้านที่มีอยู่กลายสภาพเป็นกองขยะ
"ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากเปลี่ยนแปลง แต่เราแค่ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน" อากาเนะ กล่าว
เมื่อเรื่องดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็กลายมาเป็นที่พูดถึงอย่างมากในสื่อจีน โดยมีชาวเน็ตหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงการใช้ชีวิตของแม่ลูกคู่นี้ เช่น "กลายเป็นว่าแม้จะไม่มีเรื่องงานหรือการผ่อนบ้านให้กังวล คนเราก็ยังใช้ชีวิตแย่ ๆ แบบนี้ได้" และ "เมื่อชีวิตสูญเสียจุดมุ่งหมาย ก็ถูกกลืนกินได้อย่างง่ายดาย"
ขณะที่ชาวเน็ตอีกคนหวังว่าแม่ลูกจะไปขอความช่วยเหลือจากนักจิตวิทยา และหาทางพาตัวเองออกมาจากมุมมืดที่เป็นอยู่ได้ เพราะพ่อผู้ล่วงลับคงไม่อยากเห็นทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่แบบนี้