
ภาพจาก เฟซบุ๊ก นารากร ติยายน
จากดราม่าในวงการสื่อ ประเด็นที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เกี่ยวกับพิธีกรที่สั่งให้ทีมงาน insert ภาพแบบที่ต้องการในรายการสด โดยสะท้อนว่าเบื้องหลังคนทำงานนั้นไม่ได้ง่ายและรวดเร็วตามใจได้ขนาดนั้น จนต่อมา หนุ่ม กรรชัย ได้ออกมาโพสต์ว่า เห็นกำลังมีดราม่าเรื่องบ่นทีมงานออกอากาศ ก็คิดในใจ ตอนนี้ก็มีอยู่สองคน ไม่ตนก็ พุทธ พร้อมชี้แจงขั้นตอนการทำงานว่า ในแต่ละวันผ่านการประชุมแล้ว เลือกภาพแล้ว แต่ยังออกมาผิด ซึ่งคนที่รับผิดชอบคือตนเองที่เป็นพิธีกรและเจ้าของรายการ รวมทั้งเชื่อว่าการที่ตนบ่นไป ก็ยังดีกว่าไปไล่ทีมงานออก ที่สำคัญที่สุด คือคำว่า บ้านใครบ้านมัน
อ่านข่าว : หนุ่ม กรรชัย โต้ดราม่าพิธีกรบ่นทีมงาน คนบอกให้ลองมานั่งทำดู ล่าสุดคนโพสต์ตอบกลับ

ภาพจาก เฟซบุ๊ก นารากร ติยายน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 10 สิงหาคม 2568 ต๊ะ นารากร ติยายน ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊ก เชื่อว่าคนที่อ่านโพสต์นี้น่าจะอยากทราบว่าเธอมีความคิดเห็นอย่างไร เธอจะเขียนตรง ๆ ไม่ต้องปิดบังชื่อ ไหน ๆ พวกคุณก็รู้กันแล้วว่า ในวงการนี้ ใครเป็นใคร โดยระบุว่า
ฉันคิดว่าในโพสต์แรกคนที่เขียนระบายความในใจ ไม่ได้หมายถึงคุณหนุ่ม กรรชัย หรอก เขาน่าจะหมายถึงคุณพุทธ อภิวรรณ มากกว่า เพราะคุณพุทธมักจะต่อว่าทีมงานเบื้องหลังออกอากาศบ่อย ๆ (ตั้งแต่อยู่ช่องเดิมย่านฝั่งธนจนย้ายมาย่านเกษตร-นวมินทร์) โดยเฉพาะช่วงหลัง ๆ นี้ ได้ยินว่าหนักข้อมากขึ้น
แต่พอคุณหนุ่มได้อ่านโพสต์ ก็อาจรู้สึกไม่สบายใจ เพราะในรายการโหนฯ เองก็เคยเกิดกรณีแบบนี้ และบานปลายถึงขั้นถูกฟ้องมาแล้ว คุณหนุ่มจึงเข้าไปคอมเมนต์อธิบาย และคาดว่าหลังจากนั้นคุณหนุ่มก็โทร. ไปเคลียร์กับคนต้นโพสต์ด้วยตัวเอง (ปกติคุณหนุ่มจะเป็นแบบนี้ เมื่อมีเรื่องไม่เข้าใจกัน เธอจะยกหูไปคุยด้วยตัวเอง)

ภาพจาก โหนกระแส
สำหรับฉันเองผู้เคยนั่งอยู่ในทุกตำแหน่งของงานข่าวทีวีมาแล้ว ฉันมองว่าดราม่าเรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะมันสะท้อนถึงความไม่เข้าใจในบทบาทของคนทำงาน งานข่าวทีวีมี 2 ส่วนหลัก ๆ ที่มีความสำคัญเท่าเทียมกัน คือ 1. คนเบื้องหน้า 2. คนเบื้องหลัง
ในสถานการณ์นี้คนต้นโพสต์ระบายความรู้สึกของคนเบื้องหลัง ตำแหน่งนี้จะนั่งอยู่ในห้องควบคุมการออกอากาศ และสื่อสารกับคนเบื้องหน้าผ่านอินเตอร์คอม เรียกรวม ๆ ว่า play out ภาพทุกภาพ คลิปทุกคลิป เสียงทุกเสียง ที่ออกอากาศจะผ่านจากคนเบื้องหลังที่นั่งในห้องนี้
ส่วนคนเบื้องหน้า มีหน้าที่นำเสนอเรื่องราวทั้งหมดที่เตรียมไว้ออกไปสู่ผู้ชมอย่างราบรื่นที่สุด ใช้คำว่า "ราบรื่น" เพราะความจริงก็คือ การออกอากาศรายการข่าวเป็นรายการสด แม้จะมีการเตรียมสคริปต์ไว้ก่อนแล้ว แต่เมื่อถึงเวลาออกอากาศสด ๆ ย่อมต้องมีเรื่องที่แทรกเข้ามา หรือเรื่องที่ไม่คาดคิด ไม่ได้เตรียมการไว้ก่อนอยู่แล้ว
หน้าที่ของคนเบื้องหน้าคือ เมื่อมีเหตุการณ์ใด ๆ เข้ามาต้องควบคุมสถานการณ์ให้ได้ และนำเสนอเนื้อหาอย่างครบถ้วน ไม่ใส่อารมณ์ความรู้สึกส่วนตัว เพราะข่าวคือ Fact ไม่ใช่ Emotional แม้คนเบื้องหลังจะผิดพลาด insert ภาพผิด /เพลย์คลิปผิด / ไม่เบลอหน้าคน ฯลฯ คนเบื้องหน้ามีหน้าที่ต้องทำให้รายการทั้งหมด "ราบรื่น" ไม่ใช่ให้ผู้ชมต้องมาสะดุดกับอารมณ์ที่สะท้อนออกมาทางคำพูดของคนเบื้องหน้า

ภาพจาก เฟซบุ๊ก พุทธ อภิวรรณ
ในกรณีทั้งคุณหนุ่ม และคุณพุทธ ทั้งสองคนไม่ใช่แค่คนเบื้องหน้า แต่ทั้งคู่คือ "หัวหน้า" ของคนเบื้องหลังทั้งหมด คือคนที่สามารถให้คุณให้โทษต่อคนทำงานเบื้องหลังได้ เมื่อคุณเป็นหัวหน้า คุณต้องรับผิดชอบทั้งหมดทั้งรายการ เมื่อลูกน้องทำผิดคุณก็ตักเตือน ตักเตือนแล้วยังผิด ก็ต้องคาดโทษ แต่ถ้าผิดอีก ก็ต้องลงโทษ ทั้งหมดนี้ต้องทำในที่ประชุมทีมงาน หรือเรียกมาต่อว่าส่วนตัว ไม่ใช่ต่อว่าออกอากาศให้ผู้ชมรับรู้ปัญหาของทีมงานไปด้วย
สุดท้ายแล้ว เมื่อรายการเกิดความผิดพลาดจากคนเบื้องหลัง คนที่เป็นหัวหน้า จะต้องรับผิดชอบทุกอย่างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และไม่ควรมีข้ออ้างใด ๆ ด้วย