
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 2 สิงหาคม 2568 คลินิกสูตินรีเวชหมอธมน สตูล โพสต์เรื่องราวเตือนใจผู้หญิง หลังเจอเคสชวนช็อกของคนไข้ที่มีซีสต์รังไข่ ต้องทำการผ่าตัดออก ก่อนพบว่ามีขนาดใหญ่มากถึง 30 เซนติเมตร และหนัก 8 กิโลกรัมเลยทีเดียว
เพจระบุว่า ช่วงนี้คุณหมอไม่ได้มีแค่ผ่าคลอดนะคะ เคสเนื้องอกมดลูก ซีสต์รังไข่ของชาวสตูลเยอะสุด ๆ ค่ะ เคสนี้ซีสต์รังไข่ 30 เซนติเมตร 8 กิโลกรัม คนไข้แบกก้อนติดตัวอยู่หลายปีแบบไม่รู้ตัว
มาหาคุณหมอตอนแน่นท้องสุด ๆ แล้ว ผังผืดแน่น ๆ เลยค่ะ ขอบคุณทีมผ่าตัด โรงพยาบาลสตูล ที่ดูแลคนไข้ ตั้งแต่ก่อนผ่า จนกลับบ้านปลอดภัยค่ะ

เฟซบุ๊ก คลินิกสูตินรีเวชหมอธมน สตูล
นพ.ชาญชัย เลาหประสิทธิพร แพทย์ที่ปรึกษาศูนย์สุขภาพหญิง โรงพยาบาลพญาไท 3 อธิบายว่า ซีสต์ มาจากภาษาอังกฤษว่า cyst มีความหมายว่า ถุงน้ำ ดังนั้น ไม่ว่าอะไรก็ตามที่มีเปลือกและมีน้ำหรือของเหลวภายในก็จะเรียกว่า ซีสต์ เหมือนกันทั้งหมด
ซีสต์รังไข่ เกิดขึ้นได้อย่างไร
อวัยวะทุกอย่างภายในร่างกายของคนเรามีโอกาสเกิดซีสต์ได้ โดยผู้หญิงจะมีความพิเศษมากกว่าผู้ชาย ตรงที่มีอวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิง โดยเฉพาะมีรังไข่ที่มีโอกาสเกิดซีสต์ได้บ่อย ยิ่งเมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ก็จะเกิดซีสต์หรือถุงน้ำรังไข่ ซึ่งจะโตแล้วยุบหายไปตามรอบเดือนจากการตกไข่เป็นปกติได้

ภาพจาก เฟซบุ๊ก คลินิกสูตินรีเวชหมอธมน สตูล
สัญญาณเตือน ซีสต์รังไข่ ที่ควรสังเกต
- มีอาการปวดท้องน้อย และถ้าปวดสัมพันธ์กับรอบเดือนก็อาจสงสัยว่าจะมีช็อกโกแลตซีสต์
- บางรายปัสสาวะบ่อยขึ้น เนื่องจากซีสต์โตพอสมควรและไปเบียดกระเพาะปัสสาวะ บางรายแค่มีอาการหน่วง ๆ ท้องน้อย
- อาจไม่มีอาการเลย แต่เข้าใจไปว่ามีหน้าท้องโตเพราะอ้วน
- มีอาการปวดท้องน้อยเฉียบพลันจากขั้วถุงน้ำรังไข่บิด หรือถุงน้ำรังไข่แตก
- อาจมีประจำเดือนผิดปกติ เช่น มามาก หรือ มากะปริบกะปรอย ปวดประจำเดือนมากขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละเดือน
วิธีการตรวจ หากสงสัยว่าเป็นซีสต์รังไข่ หรือ มีอาการปวดท้องน้อย
- ถ้าผู้ป่วยยังเด็กหรือยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ แพทย์มักจะตรวจโดยใช้การอัลตราซาวด์ที่ท้องน้อย โดยให้ผู้ป่วยกลั้นปัสสาวะให้มีน้ำปัสสาวะในกระเพาะปัสสาวะมาก ๆ จึงจะเห็นมดลูกและรังไข่ได้ชัดเจน
- บางรายอาจจำเป็นต้องตรวจอัลตราซาวด์ทางช่องคลอดหรือทางทวารหนัก ซึ่งปัจจุบันจะเป็นหัวตรวจเล็ก ๆ เท่านิ้วชี้หรือนิ้วหัวแม่มือเท่านั้น จึงไม่ทำให้ผู้เข้ารับการตรวจรู้สึกเจ็บ
- นอกจากแพทย์จะตรวจภายในและอัลตราซาวด์แล้ว การซักประวัติของอาการที่ผิดปกติต่าง ๆ ประวัติการมีประจำเดือนก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการประกอบการวินิจฉัยโรค
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก คลินิกสูตินรีเวชหมอธมน สตูล, โรงพยาบาลพญาไท