สรุปประชุมด่วน UNSC กรณีการปะทะไทย-กัมพูชา ขอให้ยับยั้งชั่งใจที่สุด - ใช้การเจรจา


           สรุปประชุมด่วน UNSC กรณีการปะทะไทย-กัมพูชา รับฟังข้อมูลทั้ง 2 ฝ่าย แต่ยังไม่มีมติใด ๆ ขอให้ยับยั้งชั่งใจอย่างที่สุด และใช้การเจรจาเพื่อหาทางออก 

สรุปประชุมด่วน UNSC กรณีการปะทะไทย-กัมพูชา
ภาพจาก a katz / Shutterstock.com

           วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ได้จัดการประชุมฉุกเฉินแบบปิด ภายใต้หัวข้อวาระ "ภัยคุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ" เพื่อหารือเกี่ยวกับการปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยใจความในรายงานสรุปการประชุม ระบุว่า 

           การปะทะระหว่าง 2 ประเทศ เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม และยังคงดำเนินจนถึงขณะนี้ เกี่ยวข้องกับการยิงโต้ตอบ การยิงปืนใหญ่ และการยิงจรวด ทางไทยได้โจมตีทางอากาศในกัมพูชา โดยเจ้าหน้าที่ไทย ระบุว่า ความรุนแรงได้คร่าชีวิตทหารไทย 1 นาย และพลเรือน 14 คน และทำให้ทหาร 15 นาย และพลเรือน 31 คน ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ทางกัมพูชาระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คน และบาดเจ็บอีก 5 คน มีรายงานว่าประชาชนกว่า 130,000 คน ได้อพยพออกจากพื้นที่ขัดแย้งในประเทศไทย นับเป็นการยกระดับความรุนแรงที่สูงที่สุดระหว่าง 2 ประเทศเพื่อนบ้านในรอบกว่าทศวรรษ

           สถานการณ์ความรุนแรงครั้งนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งและตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ทหารกัมพูชา เสียชีวิตจากการยิงปะทะกับทหารไทย ในพื้นที่ชายแดนที่เป็นข้อพิพาท ก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ทางการทูต และการส่งกำลังทหารไปประจำการตามแนวชายแดนของทั้งสองฝ่าย และความตึงเครียดยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นจากเหตุการณ์ในวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ซึ่งทหารไทยที่ลาดตระเวนตามแนวชายแดนได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิด ทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 5 นาย โดย 1 นายเสียขาข้างหนึ่ง จากนั้นกัมพูชาและไทยได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตของตนกลับประเทศ และปิดจุดผ่านแดนหลายแห่ง 

           กัมพูชาและไทยต่างกล่าวโทษอีกฝ่ายว่าเป็นต้นเหตุของการปะทะกัน ทั้งสองฝ่ายได้แสดงจุดยืนของตนในจดหมายที่ส่งถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม โดยในจดหมาย ไทยกล่าวว่า ทุ่นระเบิดที่ทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บเมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคมนั้น เป็นระเบิดที่เพิ่งวางใหม่ นอกจากนี้ ไทยยังยืนยันว่าทหารกัมพูชาเป็นกลุ่มแรกที่ยิงถล่มฐานทัพทหารไทย ในจังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม หลังจากนั้น กัมพูชายังได้เปิดฉากโจมตีอย่างไม่เลือกหน้าในดินแดนไทยทั่วทั้ง 4 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี            ขณะที่ในจดหมายของกัมพูชา กล่าวหาว่าไทยได้โจมตีที่ตั้งของกัมพูชาตามแนวชายแดน โดยปราศจากการยั่วยุ ไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า และจงใจโจมตีแนวชายแดนกัมพูชา รวมทั้งปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย พื้นที่มอมเบย์ ในจังหวัดพระวิหาร และอุดรมีชัย กัมพูชายังปฏิเสธข้อกล่าวอ้างของไทยเกี่ยวกับการวางทุ่นระเบิดใหม่ โดยให้เหตุผลว่า เจ้าหน้าที่ไทยได้เปลี่ยนเส้นทางลาดตระเวนที่ประสานงานกันไว้ก่อนหน้านี้ระหว่าง 2 ประเทศ  

           คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้รับจดหมายของกัมพูชา ซึ่งร้องขอให้จัดการประชุมคณะมนตรีเร่งด่วน เพื่อแก้ไขสถานการณ์ แต่จดหมายของไทยไม่ได้ทำเช่นนั้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของไทยตลอดหลายปีที่ผ่านมา ที่สนับสนุนการเจรจาทวิภาคีมากกว่าการไกล่เกลี่ยระหว่างประเทศ ในขณะที่กัมพูชาได้ยื่นคำร้องหลายครั้งตลอดหลายปีที่ผ่านมา ให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) พิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับข้อพิพาทชายแดน ในขณะที่ไทยได้ยืนยันอย่างสม่ำเสมอว่า ไม่ยอมรับอำนาจของศาลและต้องการแนวทางทวิภาคี  

           ผู้แทนประเทศหลายประเทศ รวมถึงจีน สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป (EU) แสดงความกังวลเกี่ยวกับการปะทะความรุนแรง และเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายลดระดับความตึงเครียดลง โดยในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ได้เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่าย "ใช้ความยับยั้งชั่งใจอย่างที่สุดและแก้ไขปัญหาใด ๆ ผ่านการเจรจาและด้วยจิตวิญญาณแห่งมิตรภาพที่ดี เพื่อหาทางออกที่ยั่งยืนสำหรับข้อพิพาทนี้"  

           ขณะที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ได้หารือกับกัมพูชาและไทย เพื่อลดความตึงเครียด โดยนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย ได้ให้ข้อเสนอหยุดยิงต่อทั้งสองฝ่าย ซึ่งกัมพูชาได้ตอบรับข้อเสนอ ส่วนไทยยังคงแสดงความต้องการให้มีการเจรจาทวิภาคีโดยตรง โดยไม่ผ่านตัวกลางจากฝ่ายที่สาม 

ขอบคุณข้อมูลจาก Security Council Report 


คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ ? รอโหลดข้อความของเพื่อน ๆ ด้านล่างนี้สักครู่ แล้วร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณได้เลย !
สรุปประชุมด่วน UNSC กรณีการปะทะไทย-กัมพูชา ขอให้ยับยั้งชั่งใจที่สุด - ใช้การเจรจา โพสต์เมื่อ 26 กรกฎาคม 2568 เวลา 11:37:56 54,408 อ่าน แสดงความคิดเห็น