เด็ก 10 ขวบ เล่าถึงพ่อ ใช้แรงเฮือกสุดท้ายใส่ชูชีพ-ช่วยลูกให้รอด แม้ติดในเรือล่ม 4 ชม.

          เปิดใจเด็กชาย 10 ขวบ ผู้รอดชีวิตเหตุเรือล่มฮาลองเบย์ เล่าถึงความพยายามเฮือกสุดท้ายของพ่อ ช่วยลูกชายให้รอด แม้ติดอยู่ใต้น้ำ 4 ชั่วโมง


          จากโศกนาฏกรรมเรือล่มอ่าวฮาลอง ที่เวียดนาม ท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้ายเนื่องจากพายุวิภา ซึ่งเป็นผลให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 35 รายนั้น ล่าสุด (20 กรกฎาคม 2568) สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานเรื่องราวของเด็กชายวัย 10 ขวบ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตจากเหตุเรือล่มอย่างปาฏิหาริย์ แม้จะติดอยู่ในเรือที่ล่มอยู่นาน 4 ชั่วโมง

          รายงานเผยว่า เด็กชายขึ้นเรือท่องเที่ยว QN-7105 มากับครอบครัว ตอนที่เรือติดพายุและล่มกลางอ่าว อย่างไรก็ตาม เด็กชายพบจุดหลบภัยซึ่งมีลักษณะเป็นช่องอากาศภายในเรือได้ และอยู่รอตรงนั้นกระทั่งได้รับความช่วยเหลือ โดยเจ้าหน้าที่พบตัวเด็กชายในภาพแทบไม่ได้รับบาดเจ็บ จึงรีบช่วยกันทำให้ร่างกายของเด็กชายอบอุ่นขึ้น ก่อนจะนำตัวส่งโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุด

          ขณะที่เว็บไซต์ Soha ของเวียดนาม เปิดเผยว่า เด็กชายซึ่งถูกพบตัวในสภาพตื่นตระหนก ขึ้นเรือมาพร้อมกับ พ่อ แม่ และน้องสาววัย 3 ขวบ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าพบศพของแม่และน้องสาวของเด็กชายแล้ว แต่พ่อของเขายังคงสูญหาย

          มีการเปิดเผยว่าพ่อของเด็กชาย พยายามใช้แรงเฮือกสุดท้ายในการช่วยลูก โดยเด็กชายเล่าว่า ตอนที่เรือล่ม พ่อรีบจับเขาใส่เสื้อชูชีพ ดันตัวเขาขึ้น ก่อนที่พ่อจะหายไป

          แม้เรือดังกล่าวจะล่ม แต่ก็ยังคงมีช่องอากาศเล็ก ๆ ประมาณ 50-60 เซนติเมตร ซึ่งเพียงพอแก่การหายใจ ดังนั้นแม้เรือจะล่มและห้องโดยสารถูกล็อก แต่เด็กชายก็ยังรอดชีวิตอยู่ได้นานถึง 4 ชั่วโมง ก่อนที่จะได้รับการช่วยเหลือ


          ทั้งนี้ ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยยังดำเนินต่อไป โดยสื่อของรัฐรายงานว่ามีจำนวนผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้วอย่างน้อย 35 ราย ซึ่งปรับลดจากตัวเลขเดิม แต่ยังมีความเป็นไปได้ที่ตัวเลขอาจเพิ่มขึ้นอีก โดยเรือที่เกิดเหตุมีผู้โดยสารและลูกเรือจำนวน 53 ราย

          ขณะที่ผู้รอดชีวิตอีกรายคือชายวัย 36 ปี ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับกลุ่มเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัย 11 คน ซึ่งในกลุ่มมีผู้รอดชีวิตเพียง 3 คนเท่านั้น เขาเล่าว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วจนคนบนเรือไม่มีเวลาพอที่จะตอบสนอง โดยมีฝนตกอยู่นาน 15 นาที ก่อนที่เรือจะโคลงเคลงแรงมาก โต๊ะและเก้าอี้กระเด็นไปมา และไม่กี่วินาทีจากนั้นเรือก็คว่ำ

          น้ำทะลักเข้าเรือมาอย่างรวดเร็ว เขาจับทิศไม่ถูก เขาพยายามหายใจแต่น้ำก็ยังทะลักเข้ามาอีก ดังนั้นเขาจึงสูดหายใจลึก รีบถอดเสื้อชูชีพและดำลงไป เขามองเห็นแสงไฟริบหรี่จึงว่ายตามแสงนั้นไป กระทั่งออกมาจากเรือได้ จากนั้นเขาก็เกาะอยู่บนซากเรือที่พลิกคว่ำ เขากับผู้รอดชีวิตคนอื่น ๆ เกาะเรือรออยู่กลางสายฝนนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงได้รับความช่วยเหลือ


ขอบคุณข้อมูลจาก CNN, Soha