ลูกสาวกลุ้ม ไร้ชื่อในพินัยกรรมของพ่อ ก่อนจดหมายลับเฉลยความจริง ส่อวุ่นหนักทั้งบ้าน

          ลูกสาวช็อกหนัก ไร้ชื่อในพินัยกรรมพ่อ ก่อนได้พบความจริงจากจดหมายลับ และกระดุมทหารเก่าที่เปี่ยมความหมาย แต่ต้องมากลุ้มใจ หวั่นพี่น้องแตกคอกันเรื่องสมบัติ
          วันที่ 16 กรกฎาคม 2568 เว็บไซต์ Soha รายงานว่า หญิงสาวชาวเวียดนาม เปิดเผยจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของชีวิต หลังจากที่พ่อของเธอเสียชีวิตลง แต่เธอกลับไม่ได้รับมรดกอยู่เพียงคนเดียว ก่อนที่ต่อมาความจริงนั้นจะถูกเปิดเผย 

          เจ้าของเรื่องราว เล่าว่า ครอบครัวของเธอมีพี่น้อง 3 คน ซึ่งเธอเป็นลูกสาวคนสุดท้อง โดยคุณแม่เสียชีวิตไปตั้งแต่เธอยังเด็ก ทำให้คุณพ่อ ซึ่งเป็นอดีตทหาร ทำหน้าที่เลี้ยงดูลูกทั้ง 3 คนเพียงลำพัง ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา เธอรับรู้ได้ว่าพ่อนั้นเอ็นดูพี่ชายคนโตและพี่สาวคนกลางมากกว่า แม้ท่านจะไม่เคยพูดออกมาตรง ๆ เธอเคยคิดว่า คงเป็นเพราะตัวเองเป็นลูกที่ครอบครัวไม่ได้ต้องการให้เกิด แถมยังดื้อรั้น เลือกเรียนด้านศิลปะ ไม่ยอมเลือกเส้นทางที่ครอบครัวกำหนดไว้ 

          เมื่อ 3 เดือนก่อน คุณพ่อเสียชีวิตอย่างกะทันหัน จากอาการเส้นเลือดสมองแตก ทุกอย่างน่าจะผ่านไปด้วยดี ถ้าไม่ใช่เพราะว่า ในพินัยกรรมของพ่อ ไม่มีแม้แต่ชื่อของเธออยู่เลย

          ในวันที่เปิดพินัยกรรม ทนายความเป็นคนอ่านเนื้อหาทีละบรรทัดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยและเย็นชา ใจความว่า พ่อยกบ้านทั้งหลังที่ตั้งอยู่ในเมืองให้พี่ชายคนโต ส่วนที่ดินในชนบทมอบให้พี่สาวคนกลาง รวมทั้งแบ่งเงินฝากกว่า 2 พันล้านดอง (ราว 2.4 ล้านบาท) ให้ทั้งสองคนเท่า ๆ กัน ส่วนเธอนั้น ไม่ถูกกล่าวถึงในพินัยกรรมเลยแม้แต่บรรทัดเดียว 


          จากนั้น ทนายความ ได้หยิบซองจดหมายอีกซองออกมา ซองถูกปิดผนึกแน่นหนา มีชื่อของเธอเขียนด้วยลายมือของพ่อ ซึ่งทนายกล่าวว่า คุณพ่อฝากไว้ว่า  ถ้าในพินัยกรรมไม่มีชื่อเธอ ให้เปิดซองนี้หลังจากอ่านพินัยกรรมเสร็จ นี่คือของที่ระลึก ไม่ใช่ทรัพย์สินทางกฎหมาย แต่อาจมีผลต่อการแบ่งมรดกได้ หากมีข้อโต้แย้งจากคนในครอบครัว

          แม้ทนายความจะแนะนำให้เธอกลับไปเปิดซองนี้คนเดียวในภายหลัง แต่เธอก็ตัดสินใจเปิดทันที ภายในมีโน้ตสั้น ๆ ที่เขียนด้วยลายมือ รวมทั้งมีกระดุมทองเหลืองเก่า ๆ เม็ดหนึ่ง ขอบเริ่มสึก ด้านหลังสลักเลข 1767 เอาไว้

          ข้อความในโน้ตของพ่อ ระบุว่า  กระดุมเม็ดนี้มาจากเครื่องแบบทหารเก่า วันที่ไปรับลูกออกมาจากบ้านเด็กกำพร้า พ่อติดกระดุมนี้ไว้บนเสื้อของลูกแทนคำสัญญา "จากวันนี้ไป พ่อจะเป็นครอบครัวของลูก" แม่ของลูกก็รู้เรื่องนี้ แต่เราสองคนอยากที่จะเก็บมันไว้เป็นความลับ 

          เธอได้อ่านแล้วแทบล้มทั้งยืน เพราะเพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นลูกบุญธรรมที่ถูกเก็บมาเลี้ยง พี่ชายกับพี่สาวก็ตกใจไม่แพ้กัน ในตอนแรกทั้งคู่คงคิดว่า พ่อไม่ให้มรดกกับเธอเพราะไม่ใช่ลูกแท้ ๆ แต่กระดุมนั้นเป็นหลักฐานว่า พ่อไม่เคยทอดทิ้งเธอออกไปจากหัวใจของท่าน 

          หลังจากเธอตกใจจนอ่านจดหมายต่อไม่ได้ ทางทนายจึงขออนุญาตอ่านต่อให้จบ ซึ่งในจดหมายพ่อระบุด้วยว่า ไม่ใช่เพราะลูกเป็นลูกบุญธรรม พ่อถึงไม่ได้ทิ้งทรัพย์สินไว้ให้ แต่เพราะไม่อยากให้เมื่อพ่อจากไปแล้ว ความจริงถูกเปิดเผย จะทำให้พี่น้องต้องมาโต้เถียงแย่งมรดกกัน พ่อจึงเขียนบรรทัดนี้บอกให้ลูกรู้ว่า "กุญแจของบ้านขนาด 200 ตารางเมตรที่ชานเมือง..."

          ทนายความถึงกับหยุดอ่านไปกลางคัน เหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าได้ทำอะไรลงไป พี่ชายกับพี่สาวก็เริ่มร้อนรน แย่งซองจดหมายจากมือทนายเพื่อจะอ่านเนื้อหาให้จบ ส่วนเธอได้แต่นั่งพูดไม่ออก ทำได้แต่มองภาพถ่ายของพ่อที่วางอยู่เบื้องหน้า

          แม้ในช่วงสุดท้ายของชีวิต พ่อยังคิดถึงเธอเสมอ ท่านคิดอยากจะปกป้องเธอแม้ตัวเองจะจากโลกนี้ไปแล้วก็ตาม เธอรู้ดีว่าหลังจากพ่อเสียชีวิตไป ทุกอย่างคงจะยากเย็นขึ้น แต่ก็คาดไม่ถึงว่ามันอาจจะเสี่ยงทำให้พี่น้องทั้ง 3 คน อาจแตกคอกันเพราะเรื่องการแบ่งสมบัติ สุดท้ายนี้ เธอก็ยังคิดไม่ตกว่า ตนเองควรจะทำอย่างไร เพื่อให้พี่น้องไม่ต้องผิดใจกัน อย่างน้อยก็เพื่อให้พ่อได้จากไปอย่างไม่ต้องกังวล 
 
ขอบคุณข้อมูลจาก Soha