หมอเผย ออกกำลังกาย-วิ่งทุกวัน ยังเส้นเลือดสมองตีบได้ จาก 10 ข้อที่คนมองข้าม

          หมอโอ๊ค เผยออกกำลังกายทุกวัน วิ่งทุกวัน แต่เส้นเลือดสมองตีบตาย เพราะ 10 ข้อที่หลายคนไม่รู้ - มองข้าม เช็กเลยมีอะไรบ้าง 
          วันที่ 15 กรกฎาคม 2568 นพ.ศุภฤกษ์ วิจารณาญาณ หรือ หมอโอ๊ค โพสต์ให้ความรู้ด้านสุขภาพผ่านเพจ หมอโอ๊ค DoctorSixpack   ว่าด้วยเรื่องของการออกกำลังกาย ที่แม้จะออกกำลังกายทุกวัน วิ่งทุกวัน ก็อาจเกิดเส้นเลือดในสมองตีบได้ เพราะ 10 ปัจจัยที่หลายคนไม่รู้ ไม่เคยตรวจ หรือมองข้ามไป คือ 


          1. ความดันสูงไม่รู้ตัว
          2. sdLDL และ oxLDL ที่ซ่อนอยู่
          3. ดื้ออินซูลิน–น้ำตาลสูง
          4. ขาดสารอาหารหลอดเลือดสำคัญ
          5. นอนไม่พอ เครียดเรื้อรัง
          6. ดื่มน้ำหวานมากกว่าน้ำเปล่า
          7. ใช้ยาฮอร์โมนโดยไม่ติดตาม
          8. หยุดยาลดความดันเอง
          9. ขาด D3 & Omega-3
          10. เหล้า บุหรี่ อาหารทอด + สารพิษรอบตัว

          โดยมีรายละเอียด ดังนี้... 

          1. ความดันสูงแต่ไม่รู้ตัว

          Problem : หมอครับ ผมออกกำลังกาย 5 วัน/สัปดาห์ แต่ยังเส้นเลือดสมองตีบ เกือบตาย ทำไมครับ ?

          คำตอบคือ : คุณอาจเป็นความดันสูงแบบเงียบ โดยไม่เคยรู้ตัวเลย ผู้ป่วย stroke กว่าครึ่งไม่เคยตรวจสุขภาพ หรือไม่รู้ว่าความดันตัวเองสูงเกิน 140/90 มาหลายปี

          Agitate:
          - ความดันสูงเรื้อรัง ทำให้เยื่อบุผนังหลอดเลือด (endothelium) เสียหายทีละน้อย
          - เส้นเลือดเริ่มหนา แข็ง และเปราะ ทำให้เกิดจังหวะ "ตีบ–แตก–ตัน" ได้ง่ายมาก โดยเฉพาะตอนออกแรงหนัก
          - เวลาออกกำลังกาย ความดัน systolic อาจพุ่งสูงมาก ดังนั้นถ้าไม่มีการควบคุม ความเสี่ยง stroke เพิ่มทันที

          Solution:
          - วัดความดันทุกเช้า และก่อนออกกำลังกาย
          - ถ้ามากกว่า 135/85 ควรเริ่มปรับอาหาร + lifestyle + เสริมด้วยสูตร D3–K2–Magnesium ตามสูตรหมอโอ๊ค
          - พบแพทย์ประจำ เพื่อติดตามความดันระยะยาว


          2. คิดว่าไขมันในเลือดดี แต่จริง ๆ มี sdLDL ซ่อนอยู่

          Problem : LDL ผมแค่ 110 เองครับหมอ แต่หมอหัวใจบอกเสี่ยง stroke สูงมาก ?

          เพราะค่าปกติของ LDL-C ไม่เพียงพอ ไขมันร้ายที่แทรกผนังหลอดเลือดได้จริง ๆ คือ sdLDL (small dense LDL)

          Agitate :
          - sdLDL มีขนาดเล็กและแทรกเยื่อบุหลอดเลือดได้ง่าย จึงกระตุ้นอักเสบเรื้อรัง
          - พบมากในคนดื้ออินซูลิน, น้ำตาลสูง, นอนน้อย, เครียด, และกินหวาน
          - เมื่อ sdLDL ถูกออกซิไดซ์ กลายเป็น oxLDL จะเป็นอาหารชั้นดีของเม็ดเลือดขาว ทำให้เริ่มกระบวนการอักเสบในหลอดเลือดแบบเงียบ

          Solution :
          - ตรวจ sdLDL เพิ่ม หากมีประวัติครอบครัว stroke
          - ปรับด้วยอาหารสูตร ลดดื้ออินซูลิน – ต้านอักเสบ 
          - เสริม โอเมก้า 3, D3, NAC, Astaxanthin ช่วยลด sdLDL และ oxLDL


          3. ดื้ออินซูลินแบบไม่รู้ตัว (แม้ไม่อ้วน ก็เสี่ยงได้)

          Problem : หมอครับ ผมไม่ได้อ้วนเลย ทำ IF ออกกำลังก็ทำ แต่ทำไมยังเสี่ยงหลอดเลือดสมอง ?

          คำตอบคือ : ดื้ออินซูลินซ่อนในคนผอมได้ครับ ! โดยเฉพาะคนที่ กินแป้งขัดขาว–หวาน–เครียด–นอนไม่พอ

          Agitate :
          - ดื้ออินซูลินทำให้ไขมันในเลือดผิดปกติ
          - น้ำตาลจะพุ่งและตกง่าย จนทำร้ายหลอดเลือด + สมองขาดพลังงาน
          - อินซูลินสูง = อักเสบทั้งระบบ + เส้นเลือดแข็งตัวแบบไม่รู้ตัว

          Solution :
          - ตรวจค่า fasting insulin, HOMA-IR
          - เสริมสูตร: แมกนีเซียมไกลซิเนต + อินนูลิน + ชาเขียวมัทฉะ + D3–K2
          - ออกกำลังกายเน้นเวตเทรนนิ่ง + พักผ่อนอย่างเพียงพอ


          4. เครียด – นอนไม่พอ = วงจรทำลายหลอดเลือดสมอง

          Problem : ผมนอนไม่พอเพราะทำงานหนัก เครียดด้วยครับ แต่ก็พยายามออกกำลังกายทุกวัน

          ฟังดูดีครับ... แต่ความจริงคือ เครียดเรื้อรัง + นอนไม่พอ = เส้นเลือดพังแบบเงียบ ๆ แม้จะออกกำลังกายก็เอาไม่อยู่ครับ

          Agitate :
          - เครียด ทำให้ คอร์ติซอลสูงเรื้อรัง ความดันขึ้นโดยไม่รู้ตัว
          - นอนไม่พอ ทำให้ลดการซ่อมแซม endothelium เกิด micro-tear (รอยแตกลึกระดับเซลล์)
          - วงจรนี้ส่งผลให้เกิด plaque buildup + เพิ่มโอกาสลิ่มเลือด

          Solution :
          - นอนให้ได้ 7–8 ชั่วโมง/คืน (มีคุณภาพ)
          - เสริม GABA, แมกนีเซียม, L-theanine, Passionflower ตามสูตรหมอโอ๊ค
          - งด Blue light และ ใส่ แว่นตาตัดแสงสีฟ้าก่อนนอน, ฝึก breathing 4-7-8
          รับสูตร ฝึกลมหายใจนอนหลับง่าย  

          5. กินของหวาน–ขนมปัง–น้ำอัดลม มากกว่าน้ำเปล่า

          Problem : ผมไม่ได้กินมันนะหมอ แค่ขนมปังกับกาแฟหวานตอนเช้า กับโค้กตอนบ่าย

          จริง ๆ แล้ว... นี่แหละคือตัวเร่งหลอดเลือดเสื่อม กลูโคส + ฟรุกโตส จากน้ำตาลที่พุ่งเร็ว ทำให้ endothelial พังแบบสะสม

          Agitate :
          - น้ำตาลพุ่งไว จะกระตุ้น AGEs (Advanced Glycation End products) ทำลายเยื่อบุเส้นเลือด
          - น้ำตาลสูง จะเปลี่ยน LDL และ oxLDL ง่ายขึ้น
          - ฟรุกโตสสะสมในตับ จะทำให้ TG สูง + d-LDL เพิ่ม
          - อินซูลินสูง ทำให้อักเสบเรื้อรังทั่วร่างกาย เส้นเลือดเปราะแตกง่าย

          Solution :
          - งดน้ำหวานทุกชนิด (รวมถึงกาแฟ 3-in-1)
          - ดื่มน้ำเปล่า หรือมัทฉะไม่ใส่น้ำตาลแทน
          - เสริมด้วยใยอาหารจาก Sunfiber, อินนูลิน, Psyllium Husk
  

          6. ดื่มน้ำหวานมากกว่าน้ำเปล่า

          Problem : ผมออกกำลังกายหนักครับหมอ แต่ยังชอบดื่มชาเย็น น้ำหวาน กาแฟ 3-in-1 เป็นประจำ

          แบบนี้เท่ากับเปิดประตูเชิญโรคเลยครับ ทำไมดื่มน้ำหวานประจำถึงเพิ่มความเสี่ยง Stroke ?

          1. น้ำตาลสูง จะดื้ออินซูลิน และเพิ่ม sdLDL ที่แทรกหลอดเลือดได้ง่าย
          2. เพิ่มระดับไตรกลีเซอไรด์ (TG) ซึ่งจะทำลายผนังหลอดเลือด + เสี่ยงตับอ่อนอักเสบ
          3. น้ำตาลที่สูงนาน ๆ ทำลายผนังหลอดเลือดฝอย ทั่วร่างกายโดยไม่มีอาการ
          4. กระตุ้นการอักเสบเรื้อรังในร่างกาย หลอดเลือดสมองอักเสบแบบไม่มีสัญญาณเตือน
          5. ยิ่งดื่มหลังออกกำลังกาย น้ำตาลพุ่งเร็ว เพราะหลอดเลือดเปิดรับทันทีหลังเคลื่อนไหว

          ให้ดื่มน้ำเปล่าเท่านั้น 
 

          7. กินยาฮอร์โมนเพศหญิง (โดยเฉพาะแบบกินประจำ)

          ฮอร์โมนเพศหญิง เช่น ยาคุม, HRT (hormone replacement therapy) อาจเพิ่มความเสี่ยงเส้นเลือดอุดตันในผู้หญิงบางคน

          ความเสี่ยงของยาฮอร์โมน :
          1. ฮอร์โมนบางชนิดเพิ่มการแข็งตัวของเลือด เสี่ยงลิ่มเลือดอุดตัน
          2. เพิ่ม CRP (ตัวอักเสบในหลอดเลือด กระตุ้นเส้นเลือดสมองอักเสบ
          3. ส่งผลต่อไขมันในเลือด LDL ขึ้น, HDL ลง (ขึ้นกับสูตร)
          4. ยิ่งใช้ร่วมกับบุหรี่หรืออ้วน ความเสี่ยงเพิ่มทวีคูณ
          5. ผู้หญิงวัยทองที่ใช้ HRT ควรได้รับการติดตามระดับไขมัน และ coagulant factor

          ถ้าใครต้องใช้ฮอร์โมน ปรึกษาแพทย์ + ปรับด้วยวิตามินโอเมก้า 3 และ K2 ดีที่สุด 

          8. ไม่กินยาที่แพทย์จ่าย โดยเฉพาะ "ยาลดความดัน"
 
          อันตรายของการหยุดยาความดัน :
          1. แรงดันภายในเส้นเลือดสูงขึ้นทุกวัน โดยที่เราไม่รู้ตัว
          2. ทำให้เยื่อบุหลอดเลือดเสื่อมไว oxLDL เข้าแทรกง่ายขึ้น
          3. หัวใจต้องบีบแรงขึ้น ทำให้หัวใจโต หลอดเลือดแข็ง
          4. ความดันเหวี่ยงตอนเช้า (Morning surge) อันตรายมาก เพราะเป็นจังหวะที่เส้นเลือดแตกได้
          5. หยุดยาเองเท่ากับละเลย "ตัวยืดอายุ" ที่ถูกคิดค้นมาแล้ว


          9. ขาดวิตามิน D3 & โอเมก้า 3 เสี่ยงเส้นเลือดเสื่อมแบบเงียบ ๆ

          ทำไมการขาด D3 & Omega-3 ทำให้เส้นเลือดเสื่อม ?
          1. D3 ขาด - แคลเซียมไม่เข้าสู่กระดูก แต่สะสมในหลอดเลือดแทน
          2. D3 ขาด - เสี่ยง endothelial dysfunction (เยื่อบุเสื่อม)
          3. โอเมก้า 3 ต่ำ - เพิ่มการอักเสบทั่วร่างกาย
          4. โอเมก้า 3 ต่ำ - HDL ทำงานไม่ดี LDL ถูกออกซิไดซ์ง่ายขึ้น
          5. สมองขาด DHA - เพิ่มความเสี่ยง stroke ได้โดยไม่รู้ตัว


          10. ปัจจัยซ่อนร้าย… เหล้า บุหรี่ สารพิษ อาหารทอด

          "ไม่เคยตรวจสุขภาพ แต่ดูดบุหรี่ดื่มเหล้า – คิดว่าออกกำลังก็พอ" คือความเข้าใจผิดที่คร่าชีวิตมานักต่อนักแล้ว 

          สิ่งที่คนมองข้ามบ่อย แต่ทำลายหลอดเลือดโดยตรง :
          1. เหล้า : เพิ่มไขมันในตับ จะเพิ่ม TG ทำให้ตับอ่อนอักเสบและหลอดเลือดเสื่อม
          2. บุหรี่ : เพิ่มอนุมูลอิสระมหาศาล LDL กลายเป็น oxLDL ทันที
          3. ของทอด & ไขมันทรานส์ : เปลี่ยนผนังหลอดเลือดให้แข็ง + สะสม plaque
          4. PM2.5, สารพิษในอาหาร : เข้าทางระบบหายใจ + กินสะสม จะอักเสบเรื้อรังทั่วร่างกาย
          5. การนอนไม่พอ : ฮอร์โมนคอร์ติซอลสูง เพิ่มความดันโดยไม่รู้ตัว
          รู้แล้วต้องเริ่มเปลี่ยนครับ หมอโอ๊คอยากให้ทุกคนมีชีวิตยืนยาวแบบคุณภาพจริง ๆ