ใบปริญญาบัตรที่ภาคภูมิ หยิบมาดูอีกทีเหลือแค่ความว่างเปล่า ผิดที่ตัวเอง เห็นแล้วจะร้อง

          หนุ่มเก็บใบปริญญาบัตรไว้ในตู้ หยิบมาดูอีกทีแทบร้อง ความทรงจำสมัยเรียนเหลือเพียงความว่างเปล่า ได้แต่โทษตัวเอง เตือนใจเอกสารสำคัญ ต้องเก็บให้ดี ๆ           วันที่ 7 กรกฎาคม 2568 เว็บไซต์ kenh14.vn รายงานเรื่องราวที่ถูกพูดถึงอย่างมากบนโลกออนไลน์ของจีน หลังจากเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ชาวเน็ตจากมณฑลกวางตุ้ง ได้โพสต์ภาพใบปริญญาบัตรของเขา ที่ตอนนี้ได้เปลี่ยนสภาพกลายเป็น "กระดาษเปล่า ๆ" ใบหนึ่ง ไม่เหลือทั้งชื่อ รูปถ่าย ปีการศึกษา ชื่อสถาบัน หรือแม้แต่ตราประทับใด ๆ ทุกสิ่งที่เหลืองอยู่มีเพียงร่องรอยจาง ๆ ของหมึก ราวกับความทรงจำสมัยเรียนของเขาที่จางหายไป 

          ส่วนสาเหตุนั้น เจ้าตัวทำได้แค่โทษตัวเอง โดยเล่าว่า เนื่องจากสภาพอากาศที่กวางตุ้งนั้นชื้นตลอดทั้งปี และเขาก็เก็บรักษาใบปริญญาบัตรไว้ไม่ดี ทำให้เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง หมึกบนกระดาษก็เริ่มจางหายไป 

          กระทั่งวันหนึ่งที่อากาศดี ๆ เขาถือโอกาสนี้หยิบใบปริญญาบัตรมาเปิดดู แต่ก็ต้องช็อกเมื่อเห็นความว่างเปล่าตรงหน้า ใบปริญญาบัตรที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นความภาคภูมิใจ บัดนี้สภาพแทบไม่ต่างจากกระดาษถ่ายเอกสารที่ไม่ถูกใช้งาน 

          เรื่องนี้กลายเป็นหัวข้อที่มีผู้คนพูดถึงกันมาก ในขณะที่หลายคนรู้สึกเห็นใจเจ้าของโพสต์ แต่หลายคนอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบสถานการณ์ที่เกิดขึ้น กับฉากในหนังดังอย่าง Journey to the West ที่หลังจากอาจารย์และศิษย์ต่างผ่านความยากลำบากนับพันครั้งเพื่อให้ได้พระคัมภีร์จากตะวันตก แต่ท้ายที่สุดเมื่อเปิดออกมา กลับพบว่าทุกอย่างเป็นเพียงกระดาษเปล่า 

        ชาวเน็ตคนหนึ่งกล่าวติดตลกว่า "ฉันก็เรียนหนังสือราวกับว่าจะได้พระคัมภีร์ อ่านหนังสือทั้งวันทั้งคืน แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับเป็น... ร่างพระคัมภีร์ !"

          อย่างไรก็ตาม ยังมีการพูดถึงเรื่องจริงจังเกี่ยวกับการเก็บเอกสารสำคัญ ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นมากนั้นเป็นเรื่องที่น่ากังวล โดยพบว่าหลายพื้นที่ของจีนเองก็มักเกิดกรณีเอกสารขึ้นราหรือหมึกซีดจางเป็นประจำ บางคนจึงแนะนำให้เอาเอกสารสำคัญเหล่านั้นเก็บใส่ถุงพลาสติกกันความชื้น เก็บไว้ในที่แห้งและโปร่ง อย่าโดนแดดตรง ๆ 

          ขณะที่มหาวิทยาลัยบางแห่ง ยังใช้วิธีการออกใบปริญญาบัตรเป็นแบบดิจิทัล เพื่อลดความเสี่ยงที่เอกสารกระดาษจะสูญหายหรือเกิดความเสียหายอีกด้วย 
 
ขอบคุณข้อมูลจาก kenh14.vn