อาโอซาสะ มุ่งมั่นการเรียนจนมีใบประกอบวิชาชีพแพทย์ ก่อนที่ต่อมาเขาจะมุ่งหน้าสู่เส้นทางการเป็นเจ้าของธุรกิจและผลิตคอนเทนต์จนมีผู้ติดตามจำนวนมาก โดยเขาเป็นที่รู้จักของหลาย ๆ คนจากการไปออกเรียลลิตี้ดัง Reiwa no Tora กับบทบาทเป็นหนึ่งในนักลงทุน ที่ต้องคัดเลือกในการให้โอกาสทำธุรกิจกับเหล่านักธุรกิจหน้าใหม่ หรือ นักประดิษฐ์ ที่กำลังเริ่มต้นธุรกิจ
อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ครอบครัวของอาโอซาสะออกมาประกาศข่าวเศร้าผ่านทาง X แจ้งข่าวการเสียชีวิตของเขา ด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ในวัย 29 ปี โดยพิธีศพได้จัดขึ้นภายในครอบครัว และดำเนินไปอย่างเรียบร้อยแล้ว
ย้อนสัญญาณอันตราย เมื่อไฟในการโหมงาน กระทบกับสภาพร่างกาย
รายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้ อาโอซาสะ มักพูดถึงสุขภาพของตัวเองอยู่เสมอ เช่น ในคลิปเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน มีช่วงหนึ่งที่เขาเล่าถึงอาการปวดและตึงบริเวณไหล่ นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน เขายังโพสต์ข้อความเปิดใจเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของร่างกายว่า ตอนนี้เขาอายุ 29 แล้ว ช่วงนี้เริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงพวกนี้ เช่น ร่างกายอ่อนแอลง ออกไปดื่มตอนกลางคืนไม่ไหว มุมมองกว้างขึ้นในทางที่ไม่ดี หมดไฟ ไร้ความตื่นเต้น คิดว่าจะลองจัดตารางชีวิตให้โล่ง ๆ ดูบ้าง
นอกจากนี้ อาโอซาสะ ยังเขียนข้อความว่า "หากวันนี้คุณใช้ชีวิตในแบบที่ ถ้าพรุ่งนี้ไม่ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกก็จะไม่เสียใจ คุณก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องอนาคต ไม่ต้องวิ่งไล่ตามความคาดหวังประหลาด ๆ แค่ใช้ชีวิตวันนี้ให้ดีพอ แค่นี้ชีวิตก็มีคุณค่าแล้ว"
ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก J-doradic เปิดเผยว่า ภายหลังการจากไปอย่างกะทันหันในวัย 29 ปี ของ อาโอซาสะ ได้มีชาวเน็ตญี่ปุ่นบางคนไปขุดโพสต์เก่า ๆ ที่เขาเคยโพสต์ถึงทัศนคติในการใช้ชีวิต ซึ่งระบุไว้ว่า
เมื่อเริ่มต้นทำงานด้านการตัดต่อวิดีโอ ก็สร้างรายได้ในเดือนแรกถึง 1.2 ล้านเยน (ราว 2.6 แสนบาท) และเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านเยน (ราว 4.4 แสนบาท) ในเดือนถัดมา อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แลกมากับรายได้นั้นคือการทำงานวันละกว่า 18 ชั่วโมง จนแม้แต่เมื่อแฟนพยายามพูดคุยด้วย ก็แทบไม่ให้ความสนใจ เขาทุ่มเทแรงกายแรงใจไปกับการทำงานอย่างไม่ลดละ
แม้ว่าจะสอบผ่านและได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์แล้ว แต่ก็ตัดสินใจละทิ้งเส้นทางสายแพทย์ และมุ่งมั่นเดินหน้าทำงานด้านการตัดต่อวิดีโอต่อไป ตลอดระยะเวลา 2 ปีครึ่งนับตั้งแต่ได้รับใบอนุญาต ยังไม่เคยมีวันใดเลยที่เขาไม่ได้ทำงาน
ในสัปดาห์นี้ เขาทำงานติดต่อกันถึง 5 วัน โดยได้นอนเพียงวันละ 1-3
ชั่วโมง เขาทำงานทุกวันอย่างต่อเนื่อง
จนไม่มีแม้แต่เวลาจะรู้สึกว่าเหนื่อยหรือลำบาก กระทั่งเมื่อได้กลับมายัง
จ.ชิมาเนะ บ้านเกิด จึงเกิดความรู้สึกว่างเปล่าในใจ
และเฝ้าตั้งคำถามกับตนเองว่า เราทุ่มเททำงานหนักขนาดนี้ไปเพื่อสิ่งใดกันแน่
?
ขอบคุณข้อมูลจาก yahoo, เฟซบุ๊ก J-doradic