
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ย่าคนหนึ่งก้าวออกไปจากห้องพัก บนอพาร์ตเมนต์สูงในเมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน โดยทิ้งหลานชายวัย 2 ขวบที่กำลังหลับให้อยู่ในห้องตามลำพัง อย่างไรก็ตาม เพียงไม่กี่นาทีที่ไม่มีคนดูแล เด็กน้อยกลับตื่นขึ้น ก่อนที่จะปีนระเบียงบริเวณห้องนั่งเล่นและร่วงตกลงไปจากชั้นที่ 20
ราวปาฏิหาริย์ที่เด็กชายยังหายใจอยู่ได้ แม้จะอยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัส และปฏิบัติการช่วยเหลือที่ตามมาในช่วงเวลานั้นล้วนมีส่วนสำคัญที่นำมาสู่ผลลัพธ์อันน่าทึ่ง จากรายงานของเว็บไซต์ MS News เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2568 เปิดเผยว่า เหตุการณ์บีบหัวใจนี้เกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 08.47 น. วันที่ 19 มิถุนายน ที่ผ่านมา ที่อพาร์ตเมนต์สูงในเขตเหลียงเจียงใหม่ เมืองฉงชิ่ง ย่าซึ่งออกจากห้องพักไปเพียงไม่นาน ต้องช็อกหนักเมื่อพบว่าหลานรักร่วงตกจากห้องที่อยู่บนชั้น 20 ลงไปยังพื้นด้านล่าง
โชคยังดีที่ต้นไม้และพุ่มไม้เตี้ยด้านล่างทำหน้าที่เป็นเหมือนเบาะจากธรรมชาติที่ช่วยลดแรงกระแทก แม้ว่าเด็กชายจะได้รับบาดเจ็บสาหัส มีเลือดออกทั้งปากและจมูก แต่เขาก็ยังหายใจอยู่ จากนั้นปฏิบัติการช่วยเหลือก็เริ่มต้นขึ้น

ภาพจาก sohu
โจวเส้าหยง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย วัย 50 ปี คือคนแรกที่รีบเข้ามาช่วยเหลือหลังได้รับแจ้งเหตุ เขาเห็นย่าของเด็กกำลังร้องไห้ขณะกอดเด็กน้อยที่ได้รับบาดเจ็บ มีเลือดไหลอย่างเห็นได้ชัด จึงรีบอุ้มเด็กขึ้นมาแล้วออกวิ่งไปยังโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุด
ระหว่างทาง โจวเส้าหยง ที่เหนื่อยหอบอย่างเห็นได้ชัด ได้พบ หวังจินไหล เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ จากนั้นตำรวจก็รับตัวเด็กมาและออกวิ่งต่อ จนกระทั่งทั้งคู่นำตัวเด็กส่งถึงโรงพยาบาลได้ภายในเวลา 10 นาที หลังจากที่เด็กตกลงมา ซึ่งขณะนั้นเด็กน้อยเริ่มไม่รู้สึกตัวและมีความผิดปกติที่รูม่านตาแล้ว
แพทย์เริ่มต้นรักษาฉุกเฉินทันที และในเวลาไม่นานจากนั้นอาการของเด็กชายก็เริ่มคงที่ขึ้น ซึ่ง ดร.เฉิน หนึ่งในทีมแพทย์ที่ช่วยเหลือเด็ก กล่าวว่า เคสนี้เป็นกรณีที่หาได้ยากและมีผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย์ พร้อมชี้ว่า เด็กชายรอดชีวิตมาได้ด้วย 3 ปัจจัยสำคัญ คือ
- น้ำหนักตัวที่เบาของเด็ก ซึ่งช่วยลดแรงกระแทก
- ต้นไม้และพุ่มไม้ ที่ลดความรุนแรงจากการตก
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุทางครอบครัวก็ได้เปิดรับบริจาคเงินค่ารักษา ซึ่งมีคนบอกต่อเรื่องดังกล่าวออกไปมากมาย และมีหลายคนที่ร่วมกันบริจาค ซึ่งต่อมาแม่เด็กได้แสดงความขอบคุณจากใจต่อผู้บริจาค และขอฝากให้ผู้คนนำเหตุการณ์นี้มาเป็นเรื่องเตือนใจว่าไม่ควรปล่อยให้เด็กอยู่ตามลำพังโดยไม่มีคนดูแล
ขอบคุณข้อมูลจาก MS News