
ภาพจาก Shin Min Daily News
วันที่ 30 มิถุนายน 2568 เว็บไซต์ Mothership รายงานว่า หญิงชาวสิงคโปร์สั่งบิงซูจากร้านดังในห้างมากิน แต่เพิ่งมารู้ตัวตอนกินหมดว่าในถ้วยนั้นมีสิ่งแปลกปลอมติดมาด้วย ซึ่งไม่รู้ว่าเผลอกินเข้าไปแล้วในปริมาณมากหรือน้อยเท่าใด
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ที่ผ่านมา หญิงนามสกุลหลิน สั่งบิงซูทุเรียนจากร้านขนมในห้างที่สิงคโปร์ ตอนเวลา 20.00 น. กินกับเพื่อน 2 คน แต่ระหว่างที่กำลังกินของหวานแสนอร่อย จู่ ๆ เธอก็เคี้ยวโดนอะไรแข็ง ๆ เข้า เธอนึกว่าเป็นเศษน้ำแข็ง จึงไม่ได้คิดมากอะไร และกลืนลงไปตามปกติ อย่างไรก็ดี เมื่อลูกค้ารายนี้กินบิงซูต่อ ก็ไปกัดเข้ากับอะไรแข็ง ๆ อีกแล้ว คราวนี้เธอจึงคายออกมาดู พบว่ามันเป็นเศษบางอย่าง ลักษณะคล้ายกับพลาสติก นอกจากนี้ ยังพบเศษคล้ายพลาสติกแบบเดียวกันในน้ำราดบิงซู เธอจึงแจ้งกับพนักงานทันที แต่พนักงานกลับไม่สามารถติดต่อผู้จัดการได้ และดูเหมือนไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง
หลังเกิดเรื่อง ลูกค้าจึงขอให้พนักงานช่วยตรวจสอบบิงซูที่เธอสั่งมาให้ละเอียด ก่อนจะพบว่ามีเศษพลาสติกเพิ่มอีก 7-8 ชิ้นเลยทีเดียว

ภาพจาก Shin Min Daily News
ต่อมา หลิน ติดต่อไปยังผู้รับผิดชอบที่สาขาหลัก แต่กลับได้รับคำตอบว่า "มันเป็นไปไม่ได้" ที่จะมีเศษพลาสติกปะปนในผลิตภัณฑ์ โดยเสนอเพียงแค่จะเสิร์ฟถ้วยใหม่ให้กิน หรือ คืนเงินค่าอาหาร เท่านั้น พร้อมบอกว่าจะให้พนักงานแจ้งความคืบหน้ากลับไป แต่ยืนยันว่าร้านนั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยโยนความผิดให้กับซัพพลายเออร์แทน
ด้าน ผู้จัดการร้าน ให้สัมภาษณ์กับสื่ออย่าง Shin Min ระบุว่า เหตุการณ์นี้เป็นเคสที่เจอกับลูกค้ารายนี้เท่านั้น ซึ่งหลังตรวจสอบวัตถุดิบทั้งหมดแล้ว ไม่พบความผิดปกติใด ๆ นอกจากนี้ พวกเขายังมองว่า ข้อเรียกร้องที่ลูกค้าจะให้ร้านเยียวยา 16,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 4 แสนบาท) เป็นจำนวนเงินที่สูงเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลูกค้าไม่มีหลักฐานใด ๆ ทางการแพทย์มาประกอบด้วย
ภายหลังที่ฝ่ายร้านออกมาชี้แจง หลิน ยอมรับว่าฝ่ายตนเองเรียกร้องเงินเยียวยาจริง แต่ยืนยันว่าทางร้านเป็นฝ่ายเสนอให้ค่าชดเชยให้ก่อน และเธอก็ยังมีความกังวลว่าในอนาคตอาจต้องเข้ารับการผ่าตัด ส่องกล้อง หรือตรวจรักษาเพิ่มเติม ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งร้านนั้นเป็นฝ่ายขอให้พวกเธอเสนอค่าชดเชยไปเอง แต่พอเสนอไปกลับไม่ยอมตกลงที่จะจ่ายซะอย่างนั้น
ขณะที่ โฆษกจากสำนักงานอาหารสิงคโปร์ (SFA) กล่าวว่า ผู้ประกอบการอาหารต้องมีส่วนร่วมโดยยึดมั่นในหลักปฏิบัติด้านสุขอนามัยอาหารและการเตรียมอาหารที่ดี ซึ่งหากประชาชนมีความกังวลเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยของอาหารจากผู้ประกอบการ สามารถรายงานให้สำนักงานทราบได้ผ่านทางช่องทางออนไลน์

ภาพจาก Shin Min Daily News
ขอบคุณข้อมูลจาก Mothership