ป้าหวิดสูญเงินล้าน แค่เสี้ยวนาที จนพูดออกมาประโยคหนึ่งทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์ถึงกับสตั๊น ไปต่อไม่ได้ ตำรวจมาถึงยังอึ้ง ใครจะคิดว่าการทำอาหารช่วยได้จริง ๆ

ภาพจาก 瀟湘晨報
ใครจะคิดว่าแค่ทำอาหารจะทำให้คุณป้ารักษาเงินล้านที่เก็บอยู่ในบัญชีธนาคารไว้ได้ แม้แต่ละครคุณธรรมยังไม่กล้าใช้มุกแบบนี้ แต่นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ กับหญิงชราคนหนึ่งที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก และเงิน 1.66 ล้านหยวนในบัญชีของเธอก็กำลังจะถูกโอนออกจากบัญชีแล้ว แต่ในจังหวะสำคัญนั้นเอง คุณป้ากลับพูดออกมาประโยคหนึ่ง ทำให้มิจฉาชีพถึงกับอึ้ง พูดอะไรไม่ออก !
รายงานจากเว็บไซต์ ETtoday วันที่ 26 มิถุนายน 2568 เผยว่า หญิงชราที่เฉียดจะเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายนี้คือ ป้าซู่ หญิงชาวจีนอายุ 60 กว่าปี คุณป้าเกษียณมานานหลายปีแล้ว และมีเงินเก็บในบัญชีอยู่มากกว่า 1.66 ล้านหยวน (ราว 7.5 ล้านบาท) คุณป้ายังมีนิสัยเจ้าระเบียบ มักจะทำสิ่งต่าง ๆ อย่างเรียบร้อยอยู่เสมอ
แต่แล้วในช่วงเย็นวันที่ 16 มิถุนายน ที่ผ่านมา กลับมีโทรศัพท์จากต่างแดนโทร. มาหาคุณป้า อ้างว่าเป็นฝ่ายบริการลูกค้าของบัตรเครดิตเจ้าหนึ่ง และแจ้งคุณป้าเกี่ยวกับบริการที่คุณป้าเคยเปิดไว้ผ่านแอปฯ แชต หากเธอยังอยากใช้งานต่อจะต้องหักค่าธรรมเนียมรายเดือนผ่านบัญชี
แม้วิธีการหลอกลวงจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ป้าซู่ก็ยังหลงเชื่ออย่างสนิทใจ มิจฉาชีพยังโทร. หาป้าซู่อีกหลายสาย คอยชี้นำทีละขั้นตอน ตั้งแต่การโหลดแอปฯ ลงโทรศัพท์ กดเพิ่มเพื่อน และวิดีโอคอลคุยกัน ซึ่งคุณป้าก็ทำตามทุกอย่าง มีการทำเรื่องโอนเงิน แถมมิจฉาชีพก็ยังทราบรหัสยืนยันทาง SMS ของคุณป้าแล้วด้วย
ขั้นตอนที่ซับซ้อนทำให้คุณป้ามึนงง แต่ก็ทำตามไปเรื่อย ๆ ซึ่งหากดำเนินการทุกขั้นตอนจนครบ เงินล้านที่เก็บอยู่ในบัญชีของคุณป้าก็จะตกไปอยู่ในมือมิจฉาชีพทั้งหมด แต่ในช่วงเวลาสำคัญนี้เองเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อป้าซู่เงยหน้ามองนาฬิกาข้างผนัง
กลายเป็นว่าตอนนั้นเป็นเวลา 17.30 น. แล้ว คุณป้านึกขึ้นได้ทันทีว่าต้องรีบทำอาหารเย็น จึงบอกคนที่อยู่ปลายสายว่า "ตอนนี้ฉันต้องไปทำอาหารแล้ว เรื่องของพวกเธอไม่เร่งด่วนนี่ เดี๋ยวฉันมาทำต่อทีหลัง"
ป้าซู่วางสายแล้วคว้าผ้ากันเปื้อน เดินเข้าครัวไปทำอาหารทันที ทำให้มิจฉาชีพที่อยู่ปลายสายถึงกับอึ้ง จะติดต่อกลับคุณป้าก็ไม่ได้

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับช้อมูล
ขณะเดียวกันทางตำรวจได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการทำธุรกรรมผิดปกติน่าสงสัย จึงรีบติดต่อหาป้าซู่ทันที แต่กลับไม่มีใครรับสาย เพราะป้าซู่ทำกับข้าวอยู่ในครัว ดังนั้น ทางตำรวจจึงรีบเดินทางไปที่บ้านป้าซู่ เพราะมั่นใจว่าเธอตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์
จนเมื่อไปถึงบ้านแล้วทราบเรื่องที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก ไม่มีใครคิดว่าป้าซู่จะรักษาเงินในบัญชีไว้ได้ และชะลอเวลาในการทำธุรกรรมเพราะต้องรีบมาทำอาหารเย็น ทำให้เงิน 1.66 ล้านหยวนที่รอโอนยังค้างอยู่ในบัญชีของเธอ
เจ้าหน้าที่ให้ป้าซู่รีบระงับการทำธุรกรรม พร้อมอายัดบัญชีทันที และพบว่า ณ จุดนั้นเหลืออีกเพียง 2 ขั้นตอนเท่านั้น เงินก็จะถูกโอนไปแล้ว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้คุณป้าทราบว่าคนที่คุยกับคุณป้าคือมิจฉาชีพ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับการหลอกลวง รวมถึงแนะนำให้ปิดฟังก์ชันการรับสายที่โทร. มาจากต่างแดน รวมถึงเปิดระบบแจ้งเตือน เพื่อช่วยคุณป้าป้องกันมิจฉาชีพรายอื่นในอนาคต
ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday, Sinchew