
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์
วันที่ 19 มิถุนายน 2568 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดเผยในรายการกรรมการข่าวคุยนอกจอ กรณีคลิปเสียงสนทนา อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ สมเด็จฮุน เซน โดยยอมรับว่าฟังแล้วบาดลึกหัวใจ เลือดในอกเดือดปุด ๆ จากนี้เตรียมกลับมาลุยการเมืองอีกครั้งในพรรครักประเทศไทย เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ประชาชน เพราะมีอุดมการณ์ชัดเจน รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
นายชูวิทย์ ยังกล่าวว่า เมื่อร่างกายอ่อนแอก็ต้องรักษาตัว แต่เมื่อเปลี่ยนตับแล้ว มีร่างกายที่สมบูรณ์แล้ว ก็พร้อมรับใช้บ้านเมือง โดยยืนยันว่าไม่ได้เป็นศัตรูใคร แต่ใครทำอะไรกับตนไว้เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ตนจดบัญชีหนังหมาไว้ทุกคืน

ภาพจาก กรรมการข่าวคุยนอกจอ
ในส่วนคลิปเสียงของ นายกฯ อุ๊งอิ๊ง กับสมเด็จฮุน เซน นั้น นายชูวิทย์ ย้ำว่า เป็นเรื่องที่ทุกคนทุกพรรคต้องให้ความสนใจ จากประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ก็เป็นคน 2 ใจ มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ในการเป็นผู้นำนั้น ประสบการณ์คือความรู้ และความรู้ก็คือความฉลาด เมื่อไม่มีประสบการณ์ก็ไม่มีความรู้ เมื่อไม่มีความรู้ก็ไม่มีความฉลาด
ในการพูดคุยกันของทั้งคู่ นายกฯ อุ๊งอิ๊ง
ลักษณะดูอ่อนน้อมถ่อมตนเหมือนไทยกลายเป็นเมืองขึ้นกัมพูชา
มีการบอกว่าอยากได้อะไรเดี๋ยวจัดให้ ขอถามว่าคุณจะจัดอะไร ?
จะจัดให้สักจังหวัดหนึ่ง จะจัดดินแดนให้ จัดแก๊ส จัดอะไร ?
การใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวในการพูดคุยนั้นไม่ผิด
แต่การแสดงถึงความไร้ประสบการณ์ อ่อนน้อม และไปว่ากล่าวถึงทหารตัวเอง
พูดว่ากองทัพเป็นฝ่ายตรงข้าม แล้วดันไปพูดให้ฝ่ายนั้นฟัง
ตนคิดว่าคนคงวิจารณ์ไปเยอะแล้วว่านายกฯ พลาด

ภาพจาก กรรมการข่าวคุยนอกจอ
นายชูวิทย์ ยังฝากอีกว่า นักการเมืองอย่างตนหรือ ฮุน เซน รวมถึง อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร หรือพรรคเพื่อไทย ทุกคนทำเพื่อคะแนนเสียงตัวเองทั้งนั้น ฮุน เซน ทำก็ไม่ผิด เขาทำเพื่อคะแนนนิยมเขา แล้วแพทองธารทำเพื่อคะแนนเสียงของเพื่อไทยไหม ก็ทำ แต่ที่สำคัญคือประเทศชาติ สถาบัน กองทัพ ต้องอยู่ในพวกเดียวกันกับเรา เราเป็นนายกฯ ของคนไทยทั้งประเทศ เราไม่ได้เป็นนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย
ทั้งนี้ นายชูวิทย์มองว่ายังไงนายกฯ ก็ไม่ลาออกหรอก แต่ต้องมองไปถึงพรรคร่วมรัฐบาลว่าจุดยืนจากนี้จะเป็นอย่างไร และตนขอชมพรรคภูมิใจไทย ที่พลิกวิกฤตเป็นโอกาสในการออกจากรัฐบาล เพื่อแสดงจุดยืนว่าอยู่ข้างประเทศชาติ กองทัพ ต่อให้จะเป็นการฉกฉวยโอกาสที่กำลังถูกบีบอยู่แล้วก็ตาม

ภาพจาก กรรมการข่าวคุยนอกจอ
ขอบคุณข้อมูลจาก กรรมการข่าวคุยนอกจอ