สุดสงสาร นร. ม.1 สู้ชีวิตลำพัง หลังแม่-ยายเสีย พ่อติดคุก ครูช็อกเพิ่งรู้ตอนเยี่ยมบ้าน

          นร. ม.1 อยู่ลำพังในบ้านโทรม ๆ หลังแม่กับย่าตาย พ่อติดคุก ครูช็อกเพิ่งรู้ตอนมาเยี่ยมบ้าน วอนผู้ใหญ่ใจบุญช่วย ล่าสุดมีคนรับปากจะให้ทุนจนกว่าจะเรียนจบ 
          จากกรณีเพจ หนองหาน บ้านเฮา โพสต์เรื่องราวของ ด.ญ.ฐิชาฏา หรือน้องคริส อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนมัธยมศึกษาวัดปัทมากร บ้านบ่อปัทม์ ต.สะแบง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ซึ่งคุณครูไปเยี่ยมบ้านนักเรียนแล้วต้องช็อก เมื่อพบว่าน้องอยู่บ้านคนเดียว มีเพียงพี่สาวกับป้าที่แวะเวียนมาอยู่ด้วยเป็นบางครั้ง เนื่องจากคุณแม่กับคุณยายเสียชีวิต ส่วนคุณพ่อติดคุก 

          สำหรับ น้องคริส เป็นเด็กเรียนดี เรียนเก่ง เวลาว่างก็จะได้รับจ้างหารายได้เสริมวันละ 30-50 บาท ปัจจุบันน้องอาศัยอยู่ในบ้านที่ทรุดโทรม หลังคารั่ว ประตูชำรุด อีกทั้งบ้านยังเป็นชื่อของยายที่จำนองกับ ธกส. ไม่รู้จะถูกยึดเมื่อไร จึงนำเรื่องของน้องมาเผยแพร่นั้น 

          ล่าสุด (17 มิถุนายน 2568) ข่าวช่อง 3 รายงานว่า นายกรวีร์ สาราคำ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 5 จ.อุดรธานี พร้อมด้วยปลัดอำเภอและครูโรงเรียนมัธยมศึกษาวัดปัทมากร เดินทางไปเยี่ยมบ้านน้องคริสอีกครั้ง ในพื้นที่ ต.สะแบง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี พบว่าบ้านที่น้องอาศัยอยู่เป็นปูนชั้นเดียว หลังคาสังกะสีมีรอยรั่วเกือบทุกแผ่น โดยน้องอาศัยอยู่เพียงคนเดียว 
 
          นายกรวีร์ จึงมอบถุงยังชีพและเงินสดจำนวนหนึ่งไว้ให้ใช้จ่าย พร้อมรับปากว่าจะส่งเงินให้น้องทุกเดือน เพื่อให้มีทุนเรียนต่อจนกว่าจะจบมหาวิทยาลัย หรือชั้นสูงสุดตามที่น้องคริสต้องการ โดยเปิดใจว่า ตนรู้สึกสงสารหลังทราบข่าว จึงเดินทางมาเยี่ยมน้อง สอบถามครูก็ทราบว่าน้องเป็นเด็กดีเรียนเก่ง ตนกับเพื่อน สส. จึงจะช่วยกันส่งเงินให้น้องทุกเดือน เดือนละประมาณ 3,000 บาท เป็นทุนการศึกษาจนกว่าจะเรียนจบ

          ส่วนเรื่องที่ยายนำบ้านไปจำนอง ตอนนี้ไม่รู้ว่า ธกส. ยึดไปหรือถูกขายทอดตลาดหรือยัง ซึ่งนายกรวีร์จะประสานกับทาง ผจก. ธกส. สาขาอำเภอหนองหาน เพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป 


          ด้าน นายณัฐวุฒิ พลเยี่ยม หรือ ครูบาส ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมศึกษาวัดปัทมากร เปิดเผยว่า ช่วงที่ครูเยี่ยมบ้านนักเรียนเพื่อดูสภาพบ้านตามโครงการที่โรงเรียนจัดขึ้นทุกปี เมื่อเจอบ้านน้องคริสและเห็นสภาพความเป็นอยู่ ครูทุกคนแทบช็อกและสงสาร ตอนนี้ครอบครัวน้องแทบไม่มีใครเหลืออยู่เลย เพราะแม่และยายเสียชีวิตแล้ว ส่วนพ่อก็ติดคุกที่ภาคใต้ ทราบว่าเลิกกับแม่ไปแล้ว 

          สภาพของน้องการอยู่การกินสุดลำบาก บ้านก็ทรุดโทรม น้องบอกว่าอยู่คนเดียว ส่วนพี่สาวกับป้าจะแวะเวียนมาหานาน ๆ ครั้ง และจะมียายอีกคนที่ต่อไฟมาให้น้องใช้ที่บ้าน ทุกวันหลังเลิกเรียนต้องไปรับจ้างเสียบปิ้งไก่เพื่อหารายได้ วันละ 30-50 บาท นอกจากนี้ครูยังทราบเรื่องบ้านที่ถูกนำไปจำนอง ไม่รู้จะถูกยึดเมื่อไร่ ครูห่วงว่าน้องจะไปอยู่ที่ไหน รู้สึกสงสารจึงประสานผู้ใหญ่ใจบุญให้เข้าช่วยเหลือ 

          ทั้งนี้ น้องคริสเผยว่า บ้านเป็นของยายที่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อปีที่แล้ว หลังจากแม่เสียชีวิตเมื่อ 2 ปีก่อน พี่สาวก็จะแวะมานอนเป็นเพื่อนบางครั้ง ส่วนใหญ่ก็อยู่คนเดียว สมัยที่ตนอยู่กับพ่อแม่ที่เกาะสมุย ตนกับแม่ถูกพ่อทำร้าย เพราะพ่อติดยาเสพติด จากนั้นแม่ก็พาตนหนีมาอยู่ที่นี่ ยอมรับว่าหลังจากแม่จากไปก็คิดถึง แต่ตอนนี้ชินชาไปหมดแล้ว เพราะเคยถูกพ่อทำร้ายให้ฝังใจ 
 
          น้องคริสเล่าว่า สมัยตอนเด็ก ๆ เคยมีความฝันที่อยากจะเปิดร้านขายดอกไม้ แต่ตอนนี้อยู่คนเดียวแล้ว ตนก็จะอยู่สู้เพื่อแม่ต่อไป 
  
          ด้าน นางบัว อายุ 60 ปี น้องสาวของยายน้องคริส บอกว่า ตนเคยชวนน้องคริสให้ไปอยู่ด้วยกัน แต่น้องเขาไม่ไป ขณะที่ป้าของน้องก็ไม่เคยมาดูแลเลย ตนก็สงสารหลานอยู่ 

ขอบคุณข้อมูลจาก ช่อง 3