
ในขณะที่การถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่ควรจะเป็นโชคลาภที่เปลี่ยนชีวิตคนคนหนึ่งในชั่วข้ามคืน แต่สำหรับ ฟรานซิสโก เกอร์เรโร คนงานก่อสร้างชาวสเปน กลับต้องพบกับความทุกข์แสนสาหัส แม้จะถูกรางวัลแจ็กพอต 6.5 ล้านยูโร (ราว 240 ล้านบาท) แต่เขากลับต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน เพราะหลงเชื่อคำแนะนำแย่ ๆ จากพนักงานธนาคาร และต้องใช้เวลานานอีกหลายปีในการต่อสู้เพื่อให้ได้เงินรางวัลที่เขาไม่เคยมีโอกาสได้รับ
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์มิเรอร์ รายงานว่า จุดที่ทำให้ชีวิตของช่างก่อสร้างรายนี้พลิกผันเริ่มขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม 2548 ตอนที่ลอตเตอรี่ Spanish BonoLoto ที่เขาซื้อไว้ถูกรางวัลแจ็กพอตมูลค่า 6.5 ล้านยูโร ซึ่งหากเทียบกับค่าจ้างของเขาแล้ว เรียกว่าจะต้องทำงานไปอีก 270 ปี กว่าจะได้เงินจำนวนเท่านี้
แน่นอนว่ารางวัลก้อนใหญ่ควรจะทำให้เขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น แต่เนื่องจากฟรานซิสโกรู้ตัวดีว่าเขาเป็นคนที่ไม่มีการศึกษา และยังขาดความรู้เรื่องการเงินอย่างสิ้นเชิง เขาจึงตัดสินใจขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ และผู้ที่เขาไว้ใจไปขอคำปรึกษา...ก็คือเจ้าหน้าที่ธนาคารในท้องถิ่น
การตัดสินใจของเขาดูสมเหตุสมผล และฟรานซิสโกก็ระมัดระวัง มุ่งมั่นอดออมโดยไม่แตะเงินก้อนนี้เลยตลอดเวลา 5 ปี นับจากนั้น แต่ใครจะคิดว่าทุกอย่างจะกลายเป็นความผิดพลาด
กลายเป็นว่าฟรานซิสโกได้รับคำแนะนำที่ไม่ดีนักจากธนาคารที่เขาไปปรึกษา จนสุดท้ายก็ต้องสูญเสียทรัพย์สินทั้งหมดไปในการลงทุนผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีผลตอบแทนสูง แต่ก็มีความเสี่ยงสูง จำนวนหลายรายการ
"ผมเซ็นชื่อเพราะไว้ใจพวกเขา พวกเขาเชิญผมไปกินมื้อกลางวันหลายครั้ง และพาผมไปเซ็นเอกสารที่ธนาคาร ด้วยไวน์ 2 แก้วทำให้ผมอารมณ์ดี และเซ็นทุกอย่างตามที่พวกเขาบอก จนถึงทุกวันนี้ผมยังไม่รู้เลยว่าตัวเองเซ็นอะไรไป ผมเรียกมันไม่ถูกด้วยซ้ำ" ฟรานซิสโก กล่าวและย้ำว่า คนเหล่านั้นทำลายชีวิตเขา
ทางธนาคารแนะนำเขาว่า วิธีที่ดีที่สุดคือการนำเงินรางวัลทั้งหมดไปลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีความเสี่ยงสูง แต่ได้ผลตอบแทนสูง ซึ่งฟรานซิสโกก็หลงเชื่อ แม้เขาจะไม่เข้าใจในเอกสารต่าง ๆ ที่ธนาคารนำมาให้เลยก็ตาม
เป็นเวลาหลายปีที่ฟรานซิสโกไม่แตะต้องเงินจำนวนนั้น ด้วยความเชื่อว่าเขากำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง และได้จัดเตรียมเงินออมไว้เพื่ออนาคตของตัวเองและลูก ๆ เพราะเขาได้แบ่งเงินรางวัลนั้นให้ลูก ๆ 5 คน เก็บเพียง 60% ไว้ให้ตัวเอง แต่ปัญหาคือเงินทั้งหมดนั้นถูกเก็บรวมไว้ด้วยกัน นั่นคือการลงทุนที่สูญเสียไป
กระทั่งในปี 2552 ที่ฟรานซิสโกต้องผ่าตัดเข่า และไปถอนเงินที่ธนาคารเพื่อนำไปผ่าตัด เขาจึงพบว่าเงินในบัญชีของตัวเองว่างเปล่า และผลิตภัณฑ์ทางการเงินเหล่านั้นกลืนกินทรัพย์สินของเขาที่ได้มาไปจนหมดสิ้น
ฟรานซิสโกใจสลายอย่างมาก เขาพยายามต่อสู้ทางกฎหมายกับทางธนาคารตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นการต่อสู้คดี 3 ครั้ง ในปี 2559, 2561 และ 2563 ซึ่งผลปรากฏว่าฟรานซิสโกชนะคดีทั้ง 3 ครั้ง
ผลจากการชนะคดีทำให้ศาลบังคับให้ธนาคารจ่ายดอกเบี้ยแก่เขา 1.06 ล้านยูโร (ราว 39 ล้านบาท) รวมถึงเงินอีก 1.2 ล้านยูโร (ราว 44 ล้านบาท) แก่ลูก ๆ ของเขา
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันฟรานซิสโกในวัย 73 ปี ยังคงต้องเผชิญกับความทุกข์อย่างหนัก เพราะหนี้สินที่เกิดจากการลงทุนผิดพลาดนั้นทำให้เขาไม่อาจเห็นเงินก้อนเหล่านั้นเลย แม้ศาลจะสั่งจ่ายให้ก็ตาม และทำให้เขากลายเป็นเหมือนผู้บุกรุกที่อยู่ในบ้านของตัวเอง สภาพไม่ต่างจากคนไร้บ้าน เพราะเขาไม่สามารถจ่ายเงินจำนองได้
"ผมเหมือนตายทั้งเป็น" ฟรานซิสโก กล่าว และต้องเผชิญกับความหวาดผวาว่าจะถูกไล่ออกจากที่อยู่ของตนเองเมื่อไร
ขอบคุณข้อมูลจาก Mirror, Ladbible