เด็ก ม.1 แทงเพื่อนดับคาโรงอาหารโรงเรียน เผยปมแค้นเคยทะเลาะกันสมัยอยู่ ป.4

         เด็ก ม.1 แทงเพื่อนชั้นเดียวกันเสียชีวิตกลางโรงอาหาร เผยแค้นปมเคยทะเลาะกันสมัย ป.4 ด้าน กพฐ. ชี้ รร. หละหลวมปล่อยเด็กพกอาวุธ

          วันที่ 23 พฤษภาคม 2568 รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ช่อง 3 รายงานว่า วานนี้ (22 พฤษภาคม) เกิดเหตุเด็กชายวัย 12 ปีถูกเพื่อนนักเรียนชั้น ม.1 ด้วยกันใช้มีดแทงเสียชีวิตในโรงเรียนแห่งหนึ่ง พื้นที่ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี

          เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงพักเที่ยง เด็กชายเอ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ผู้ก่อเหตุ และเด็กชายบี (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ผู้เสียชีวิต ท้าทายไปชกต่อยกัน บริเวณข้างโรงอาหาร โดยเด็กชายเอ เหน็บมีดไว้ที่เอว เมื่อเดินมาถึงตรงหน้าเด็กชายบีในระยะประชิด ก็ควักมีดแทงหน้าท้องเด็กชายบี 1 แผล จนคนเจ็บหนีไปทางโรงครัว


          เด็กที่ก่อเหตุก็วิ่งตามไป จากนั้นเด็กที่บาดเจ็บเกิดล้มลง เด็กชายเอ จึงแทงคอด้านซ้ายอีก 2 แผล แขนทั้ง 2 ข้าง อีก 2 แผล รวมทั้งหมด 5 แผล จนเด็กที่บาดเจ็บร้องบอกว่า "ยอมแล้ว" เด็กชายเอ เมื่อเห็นเลือดออกจำนวนมาก จึงวางมีดลง จากนั้นแม่ครัวและเพื่อนนักเรียนก็เข้ามาห้าม พร้อมกับควบคุมตัวไว้ ก่อนที่ครูในโรงเรียนจะส่งเด็กชายบีส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลพิบูลมังสาหาร และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

          หลังเกิดเหตุ เด็กชายเอ รับสารภาพว่า แทงเด็กชายบี เพราะมีความโกรธแค้นกันตั้งแต่ชั้น ป.4 กระทั่งเปิดเทอมชั้น ม.1 แล้วได้มาเรียนที่โรงเรียนเดียวกันอีก จึงได้พกมีดมาไว้เพื่อป้องกันตัว



          ขณะที่ญาติของเด็กชายบี ไม่เชื่อในคำให้การ เพราะเด็กชายเอ และเด็กชายบี ไม่ได้เรียนอยู่ที่โรงเรียนเดียวกัน และอยู่กันคนละโซน ไม่น่าจะมีทางไปรู้จักกันได้ ส่วนสาเหตุจริง ๆ ญาติก็ยังไม่ทราบ และทางโรงเรียนเองก็ยังไม่มีคำอธิบาย มีแต่บอกว่า ขอไม่ให้เป็นข่าว เพราะจะเสียหาย

          ต่อมา ตำรวจ สภ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี พา เด็กชาย อายุ 12 ปี ที่ก่อเหตุใช้มีดแทงเพื่อนนักเรียนชั้น ม.1 เสียชีวิต ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณห้องอาหารของโรงเรียน  โดยบอกว่า มีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน และได้มองหน้ากัน จึงท้าทายกันไปชกต่อย กระทั่งเกิดเหตุขึ้น


          ขณะที่ ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจาก สพม.พื้นที่ ทราบว่า ประวัติของทั้สองคน เคยมีเหตุทะเลาะวิวาทกันมาเมื่อครั้งที่เรียนประถมศึกษาแต่อยู่กันคนละโรงเรียน ต่อมาได้เข้ามาเรียนในโรงเรียนมัธยมที่เดียวกันจึงเกิดการทะเลาะวิวาทกันจน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว

          ส่วนกรณีที่เด็กพกมีดเข้ามา โรงเรียนไม่ได้มีการตรวจค้นกระเป๋า ซึ่งก็ถือเป็นความหละหลวมที่ทางสถานศึกษาละเลย เพราะทางกระทรวงศึกษาธิการได้กำชับมาตรการเรื่องความปลอดภัย โดยจะต้องตรวจค้นกระเป๋านักเรียนก่อนเข้าโรงเรียนเสมอ กำชับให้ครูในโรงเรียนต้องเข้มงวดคอยตรวจสอบความเรียบร้อยภายในโรงเรียนตลอดเวลาโดยเฉพาะช่วงเวลาพักกลางวันที่เด็กจะมาอยู่รวมตัวกันจำนวนมาก


          อย่างไรก็ตาม ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของนักเรียนที่เสียชีวิต ทั้งนี้ได้ประสานสาธารณสุขในพื้นที่ให้เข้าประเมินดูแลสภาพจิตใจของครอบครัวนักเรียนและนักเรียนรายอื่น ๆ ในโรงเรียนแล้ว

ขอบคุณข้อมูลจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์