จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการเก็บหลักฐานที่บริเวณธนาคารแห่งหนึ่ง ย่านถนนสุขุมวิทพัทยากลาง ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี รวมถึงสอบปากคำผู้จัดการสาขา รวมถึงพนักงาน 2 คน หลังพบพฤติกรรมเปิดบัญชีให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนกว่า 100 บัญชีนั้น
วันที่ 22 พฤษภาคม 2568 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 รายงานว่า วานนี้ (21 พฤษภาคม) พล.ต.อ. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำแถลงเรื่องการจับกุมเจ้าหน้าที่ธนาคารที่ให้การสนับสนุนขบวนการคอลเซ็นเตอร์ โดยเปิดบัญชีธนาคารเพื่อใช้ในการกระทำผิดและสามารถขยายผลเชื่อมโยงไปยังผู้ร่วมขบวนการรายอื่นอีกหลายราย
ปฏิบัติการจับกุมผู้กระทำผิดล่าสุด เป็นคนไทย 5 คน ประกอบไปด้วยผู้จัดการธนาคารและพนักงานของธนาคาร ในพื้นที่พัทยา จ.ชลบุรี รวม 3 คน รวมทั้งล่ามอีก 2 คน ส่วนคนจีนมี 6 คน ตอนนี้จับกุมได้ 4 คน เป็นระดับสั่งการ คนจีนทั้งหมดที่โดนจับพบว่ามีความเชื่อมโยงกับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้านด้วย โดยจับกุมชาวจีนได้ในพื้นที่บึงกุ่ม, สน.ประเวศ และสน.สุทธิสาร
ทั้งนี้ มีบัญชีที่คนจีนมาเปิดบัญชีที่ธนาคารสาขาแห่งนี้ 15 ราย ทั้ง 15 รายตั้งใจเดินทางเข้ามาในประเทศไทยมาเปิดบัญชีที่ธนาคารนี้ แล้วก็เดินทางกลับทันที ทราบว่าเดินทางเข้ามาประเทศไทยด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เข้ามาประเทศไทยเป็นครั้งแรก แล้วจากนั้นก็จะมีการสนับสนุนกลุ่ม 15 คนนี้ โดยทีมอำนวยความสะดวก เป็นคนจีน 6 ราย ไปติดต่อธนาคารหลายแห่งเพื่อขอเปิดบัญชี
แฉพฤติกรรม ผจก. - พนง. แบงก์ ให้คนจีนเปิดบัญชีด้วยวีซ่าท่องเที่ยว
หนึ่งในนั้นคือธนาคารแห่งหนึ่ง เป็นธนาคารใหญ่ในพื้นที่พัทยา จ.ชลบุรี ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่า ผู้ต้องหาคนจีนทั้ง 15 ราย ทยอยเดินทางเข้ามาประเทศไทยเพื่อเปิดบัญชีตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 มีนาคม แล้วเดินทางออกจากประเทศไทยกลับไปจีน 13 มีนาคม หลักฐานก็คือผู้จัดการสาขาและพนักงานอีก 2 คน ร่วมกันปลอมแปลงเอกสารเพื่อให้สามารถเปิดบัญชีได้ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว แต่ตำรวจไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่า ผู้ต้องหาชาวไทยได้ส่วนแบ่งจากการเปิดบัญชีธนาคารเท่าไหร่
ทั้งนี้ สืบสวนพบว่าชาวจีน 15 คนที่เป็นเจ้าของบัญชีที่มาเปิดที่ธนาคารนี้เป็นคนจีนทั้งหมด เดินทางเข้ามาในประเทศโดยมีกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนที่อยู่ในประเทศไทยคอยอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มชาวจีน 15 คนเมื่อเดินทางเข้ามา ตั้งแต่ซื้อซิมโทรศัพท์ เปิดบัญชีธนาคาร ซึ่งหลังจากบัญชีแล้วพบว่ามีเงินของผู้เสียหายถูกหลอกลวงเข้ามาในบัญชี ทั้ง 15 บัญชีรวมแล้ว 118 ล้านบาท
จากการตรวจสอบผ่านระบบแจ้งความออนไลน์ สตช. พบว่า 15 บัญชีดังกล่าว มีการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 106 คดี รวมทั้งยังเกี่ยวข้องกับบัญชีที่เอาไปใช้หลอกลวงประชาชนบัญชีม้าอื่น ๆ อีก 462 บัญชี มีการแจ้งความแล้ว 2,084 คดี มูลค่าความเสียหาย 2,200 ล้านบาท
พล.ต.อ. ธัชชัย ระบุว่า กำลังเร่งประสานกับธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดเกี่ยกับชาวต่างชาติที่เข้ามาเปิดบัญชีธนาคารด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวว่ามีช่องโหว่หรือไม่เนื่องจากทุกประเทศทั่วโลกไม่มีใครทํา
เบื้องต้นพบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์เริ่มปรับตัว ใช้วีซ่าท่องเที่ยวมาเปิดบัญชีด้วยตัวเอง โดยมีเจ้าหน้าที่ธนาคารกลุ่มหนึ่งให้ความช่วยเหลือ หลังจากนี้ก็จะมีการขยายผลจับกุมยึดทรัพย์กลุ่มคนร้ายรวมถึงบัญชีม้าที่เกี่ยวข้อง
ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict เปิดเผยว่า ในโซเชียลมีเดียจีน มีการโฆษณาบริการรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารในไทย โดยระบุว่า เปิดได้ใน 30 นาที และไม่ต้องใช้วีซ่า จึงฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ลองตรวจสอบขยายผลเรื่องนี้ด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้