เรื่องเล่าจากคนซ่อนในห้าง ห่างจากคนร้ายกราดยิงพารากอน แค่ประตูกั้น สติช่วยทำให้รอด

           จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญผวาครั้งใหญ่ กับการที่เด็กชายวัย 14 ปี ได้พกอาวุธปืนและไล่ยิงคนในห้างสยามพารากอน จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 5 คน ซึ่งจากการค้นในโทรศัพท์มือถือพบว่า คนร้ายมีพฤติกรรมที่ส่อเค้ารุนแรง ทั้งมีคลิปที่เปลี่ยนแมกกาซีนปืน คลิปยิงปืน และเกี่ยวข้องกับปืน

           อ่านเพิ่มเติม อึ้งอีก ! มือยิงวัย 14 อัดคลิปซ้อมเปลี่ยนแม็กกาซีน-แชตส่งรูปให้เพื่อน ก่อนก่อเหตุ

           อ่านเพิ่มเติม คลิปนาทีจับ ! คนร้ายวัย 14 ยิงกลางห้างพารากอน วางอาวุธ-ยกมือมอบตัว

           ล่าสุด เฟซบุ๊ก Ratanaphon Wuttisela ได้ออกมาเล่าเรื่องราวสุดระทึกในเฟซบุ๊ก หลังจากที่เธอคือผู้ประสบภัย หนีออกจากห้างไม่ทัน และต้องซ่อนตัวในห้องสต็อกของ โดยตรงที่ซ่อนตัวนั้น คือชั้นที่คนร้ายอยู่พอดี

           ทั้งนี้ เธอบอกว่า ตนทำงานอยู่ในห้างสยามพารากอนบริเวณพลาซ่าด้านนอก และเพื่อนมาหาและนั่งเล่นที่ร้าน จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ในตอนแรกตนเข้าใจว่ามันคือเสียงก่อสร้าง เพราะในห้างมีหลายส่วนที่กำลังปรับปรุง จนกระทั่งตนเห็นคนหน้าตาตื่นและวิ่ง ตนเลยจับมือเพื่อนวิ่งเข้าไปในด้านในห้างที่ใกล้กับร้าน และไปวิ่งเข้าไปในสต็อกของร้านกระเป๋าเดินทาง ซึ่งตอนนั้นมีคนอยู่ประมาณ 10-13 คน โดยที่สต็อกมี 2 ชั้น ตรงชั้นที่ 1 มีคนอยู่ 2-3 คน ส่วนตนและเพื่อนร่วมทั้งพี่ร้านข้าง ๆ อยู่สต็อกชั้น 2

           ตอนนั้นแม้ตนจะกลัวมาก แต่ก็มีสติมากที่สุด ภาพคนร้ายกราดยิงโคราชผุดเข้ามาในหัว ตนจึงบอกให้ผู้ชายไปล็อกประตู หาสิ่งของมาปิดตรงช่องที่สามารถมองเข้ามาได้ และตนก็เดินลงไปปิดไฟ ในขณะเดียวกันก็มีคน 2-3 คนที่ต้องการจะหนี แต่มีคนในกลุ่มงานแจ้งเข้ามาเรื่อย ๆ ว่า คนร้ายตอนนี้อยู่ชั้น 2 และอยู่ฝั่งเดียวกับที่ตนซ่อนตัวอยู่

           จากนั้น ตนจึงบอกให้คนที่ซ่อนตัวอยู่ปิดเสียงโทรศัพท์ เพราะแต่ละคนมีแต่คนโทร. มาหาไม่ขาดสาย ตนบอกทุกคนว่าห้ามรับโทรศัพท์เด็ดขาด ให้อยู่ในความเงียบ ห้ามส่งเสียง ห้ามขยับ ทุกคนจึงนั่งอยู่ในห้องสต็อกและมีเพียงแสงจากโทรศัพท์เท่านั้น พร้อมกับรอฟังคนส่งข่าวด้วย

วินาทีเสียงปืนดัง ห่างกับคนร้ายแค่ประตูกั้น ภาพหลอนกราดยิงโคราชผุดเข้ามา น้ำตาคลอเบ้า

           จากนั้นเสียงปืนก็เริ่มดังขึ้นมาเรื่อย ๆ และใกล้เรื่อย ๆ มาก ๆ จนในกลุ่มมีคนบอกว่า คนร้ายอยู่ชั้น 3 ฝั่งนอร์ท ซึ่งก็เท่ากับว่าคนร้ายอยู่ตรงข้างหน้า มีแค่กระจกที่ประตูที่กั้นอยู่เท่านั้น และหากคนร้ายเลี้ยวเข้ามาก็จะเจอกับห้องสต็อกตรงนั้นพอดี

           ตอนนั้นตนใจหวิว น้ำตาคลอ จิตตก ภาพกราดยิงก็โคราชก็เข้ามาเรื่อย ๆ จนกระทั่งติดอยู่ในนั้นประมาณ 1 ชม. ก็มีเสียงจากเจ้าหน้าที่มาเคาะประตูให้ออกมา ตอนแรกลมแทบจับเพราะคิดว่าเป็นคนร้าย แต่เมื่อออกมาได้จึงพากันหมอบและค่อย ๆ ออกไปตรงทางหนีไฟ และลงไปข้างล่างได้อย่างปลอดภัย

นาทีจับคนร้ายได้ ใจตกไปที่ตาตุ่ม เพราะอยู่ตรงห้องที่ใช้ซ่อนตัว - วินาทีนั้นคิดถึงแต่หน้าลูก

           อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตนจะออกไปได้แต่ความกังวลใจยังไม่หมด เพราะน้องสาวมาบอกว่าคุณแม่ติดอยู่ที่ชั้น 5 เนื่องมาจากมาร่วมงานอีเวนต์ของช่องดัง แม้ว่าในงานจะมีการ์ดเพราะมีดารามาร่วมงานเยอะ แต่ตนก็ใจไม่ดีเลยเพราะคุณแม่อยู่ชั้นสูงที่สุดของห้าง ตอนนั้นตนอยู่ข้างล่างตรงหลังลานจอดรถ และก็ได้ยินเสียงปืนขึ้นอีกครั้ง ตนจึงจับมือเพื่อนวิ่งฝ่าฝนไปที่เซ็นทรัลเวิลด์ จนมีคนส่งข่าวมาบอกว่าจับคนร้ายได้แล้วและส่งรูปมาให้ดู ตนใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที เพราะตรงนั้นคืออยู่ที่หน้าห้องสต็อกที่ตนซ่อนตัวอยู่

           "ถ้าเรายังไม่ออกมาจากตรงนั้น เราคงสติหลุดมากแน่ ๆ เหตุการ์ณนี้คงจำจนตาย เป็นวันที่ฝนตกแรง ฝุ่นครึ้มมืดท้องฟ้ามองอะไรแทบไม่เห็น ใจวังเวงไปหมด ตั้งสติได้ ก็พากันเดินผ่านสกายวอล์คเพื่อจะไปสยามเซ็นเตอร์ หาเพื่อนอีกคนที่ทำร้านในนั้น เราใช้เวลาเดินมาก็เกือบชั่วโมงเลยค่ะ คนชุลมุนมากเวลานั้น พอเดินถึงเพื่อน หัวหน้าแผนกก็แจ้งให้ไปเอาของได้ ซึ่งก็คือภาพนี้แหละค่ะ ที่เราขึ้นไปเอาของแล้ว ต้องเดินตากฝนไปหลังห้างอยู่นาน และกว่าจะเดินออกมาอีกเกือบชั่วโมง นี่คือผู้ประสบภัยของแท้ ใจยังวังเวงไม่หายเลยค่ะ"