สาวซื้อคอนโดหรู อยู่ 10 วันผนังร้าว ราขึ้น เลือดออกจมูกจนหมอขอให้ย้าย ทุกวันนี้ทรมาน

           สาวซื้อคอนโดหรู อยู่ 10 วันผนังร้าว ราขึ้น โรคประจำตัวกำเริบ เลือดออกจากจมูกจนหมอขอร้องให้ย้าย ส่วนบริษัทส่งคนมาซ่อม แล้วก็บอกว่า หมดประกันแล้ว


          จากกรณีที่มีการแฉคอนโดแห่งหนึ่งซึ่งผู้ป่วยโรคหลอดเลือดแดงใหญ่ตีบจากความบกพร่องของภูมิคุ้มกัน ซื้อเอาไว้ในราคา 2.78 ล้านบาทในปี 2563 โดยเซลส์ ยืนยันว่า ห้องพักนี้พร้อมอาศัยได้ทันที แต่พออยู่จริงเพียง 10 วันก็พบปัญหา ทั้งฝาผนังปริแตกร้าว ทำให้น้ำฝนซึมผ่านเข้ามา การเกิดราคาขึ้นที่ผนังวอลเปเปอร์ แม้จะส่งเรื่องให้เจ้าของโครงการปรับปรุงแก้ไข แต่ก็แก้ไม่ถูกวิธี ทำให้มีราดำตามผนังในมุมต่าง ๆ ส่งผลเสียต่อสุขภาพ เลือดไหลออกจากจมูก ตาบวม หายใจติดขัด และทางโครงการก็จะไม่รับผิดชอบ อ้างว่าหมดประกันไปแล้ว ถ้าต้องการซ่อมให้ซ่อมเอง


          วันที่ 17 มีนาคม 2566 ข่าวช่องวัน รายงานว่า นางสาวกัญศจี อายุ 42 ปี พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า เมื่อทำสัญญาซื้อคอนโดดังกล่าวแล้วอยู่เพียง 10 วัน ก็มีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย ทั้งกำแพงด้านนอกที่แตกร้าวจนความชื้นซึมเข้ามาเกิดราดำขนาดใหญ่ พอแจ้งให้เจ้าของโครงการมาดู ก็มีการส่งช่างเข้ามาทาสีทับรอยปริแตก เปลี่ยนวอลเปเปอร์ใหม่ แต่ก็ไม่ได้กำจัดเชื้อราดำที่เป็นปัญหาต่อสุขภาพออกไป จึงแจ้งอีกครั้ง แต่บริษัทก็เงียบหาย พอตนแจ้ง สคบ. บริษัทจึงส่งช่างมาแก้ไขวิธีเดิม ๆ ซึ่งก็ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาแบบเด็ดขาด

          หลังจากนั้น ตนร้องเรียนกับสภาองค์กรคุ้มครองผู้บริโภค หรือ TCC มีการนัดไกล่เกลี่ยกัน แต่สุดท้ายทางบริษัทบอกปัด บอกว่า ที่พักตนซื้อในปี 2563 หมดสัญญาประกันไปแล้ว ตนต้องซ่อมเอง


          ตั้งแต่ที่ตนซื้อห้องพักแห่งนี้ช่วงที่ป่วยเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องจากหลอดเลือดแดงใหญ่ตีบและเพิ่งรักษาด้วยการเจาะปอดออกมา กลับต้องเจอสภาพแวดล้อมที่มีราดำ ทำให้ตนไอ เป็นไข้ เลือดไหลออกจากจมูก ปวดศีรษะรุนแรง บางครั้งก็เหมือนหายใจไม่ออก จนต้องเข้าโรงพยาบาลรักษาตัวอีก 4-5 ครั้ง

          ครั้งล่าสุด เกิดขึ้นวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่ผานมา หมอบอกว่า ภูมิแพ้ขึ้นตา หลีกเลี่ยงห้องที่มีเชื้อรา ส่วนหมอคนที่ผ่าตัดตนก็ตรวจสอบประวัติโรคย้อนหลัง บอกว่า ตนกำลังจะป่วยเป็นโรคใหม่คือโรคทางเดินหายใจ เป็นผลจากการพักห้องมีเชื้อรา หมอเตือนว่า ถ้าอยากแข็งแรงตนต้องย้ายออก แต่ห้องนี้ตนก็เก็บเงินมาตั้งนานเพื่อจะมีที่พักอาศัยของตัวเอง เป็นหนี้อีกเป็นล้าน กลับไม่ได้รับการช่วยเหลือซ่อมแซมที่ดี


          เรื่องที่บริษัทอ้างว่า ตนหมดสัญญาประกัน ทางบริษัทก็พยายามยื้อเวลามาตลอดตั้งแต่ปี 2563 เพื่อให้ประกันหมดไป ตนยอมรับว่าเครียดมาก ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อไป ถ้าต่อสู้ทางคดีความ ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม เดิมนั้นก็มีค่าใช้จ่ายเรื่องค่าผ่อนห้อง ค่ารักษาตัว ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ไม่คิดว่าชีวิตต้องเจอแบบนี้ อยากให้บริษัทพิจารณาตัวเองว่า ห้องพักแบบนี้ควรเปิดขายให้คนมาอยู่ไหม

          ด้านนายภัทรกร ทีปบุญรัตน์ หัวหน้าศูนย์สภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า วันนี้ตนเข้ามาตรวจสอบสภาพห้องพักที่ร้องเรียน ก่อนหน้านี้สภาก็มีการนัดหมายให้เจรจาทั้งสองฝ่าย แต่ทางบริษัททำหนังสือตอบกลับว่า หมดสัญญาประกันแล้ว ทำให้สภาต้องนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมหารือขั้นอนุคดีต่อไป เพื่อช่วยเหลือผู้ร้องเรียนในด้านของการจัดหาทนายความฟ้องร้องต่อบริษัท คาดว่าใช้เวลา 60 วันในการอนุมัติทนาย

ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน